อธิบดีกรมการปกครองร่วมพิธีเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้"
9 เมษายน 2568
9 เมษายน 2568

อธิบดีกรมการปกครองร่วมพิธีเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 44 พื้นที่ภาคกลาง และรับโล่ประกาศเกียรติคุณเพื่อแสดงความขอบคุณที่สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ
วันพุธที่ 9 เมษายน 2568 เวลา 10.30 น. ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กรุงเทพฯ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมพิธีเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 44 พื้นที่ภาคกลาง โดยมีพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และนายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานในพิธี โดยมีร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต เลขาธิการมูลนิธิ "สานใจไทย สู่ใจใต้" กล่าวรายงาน ซึ่งมีนายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ คณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผู้สนับสนุนโครงการ เยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ แขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมพิธี
ในปีนี้ มูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 44 ประจำปี 2568 โดยนำเยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา (อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) มาศึกษาเรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว อุปถัมภ์ในพื้นที่ภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สระบุรี และอ่างทอง) และพื้นที่จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน (จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่) รวมจำนวน 440 คน เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตในบริบทของสังคมที่แตกต่างไปจาก ที่เยาวชนคุ้นเคย ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง พัฒนาถิ่นที่อยู่ และพัฒนาสังคมให้มีความสันติสุขต่อไป โดยกิจกรรมโครงการฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 เมษายน – 2 พฤษภาคม 2568 ช่วงเวลาปิดภาคเรียน
สำหรับโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 จากดำริของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ โดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการของมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรักเมืองไทย และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กองทัพทุกเหล่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน นำเยาวชนมุสลิมจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ที่นับถือศาสนาอิสลามในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความเข้าใจบริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวอุปถัมภ์กับครอบครัวเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้กล่าวชื่นชมทุกคนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ จนสามารถขยายพื้นที่ให้เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางไปหาประสบการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งได้ดำเนินการคู่ขนานกันไปในโครงการพื้นที่ภาคกลาง เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่โครงการมีความก้าวหน้า การได้รับแนวทางที่เป็นประโยชน์จากผู้ให้การสนับสนุนและมีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อไปปรับปรุงกิจกรรมของโครงการให้ตอบสนองได้ตรงกับสภาพสังคมปัจจุบัน คุ้มค่ากับความมุ่งมั่นในการสร้างความสงบสุข สมานฉันท์ ความเท่าเทียมกันในสังคม และปลูกฝังการสำนักถึงบุญคุณของแผ่นดิน ดังคำกล่าว “เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน”ที่ ฯพณฯ พลเอก เปรมฯ ได้เคยกล่าวไว้
ท้ายสุด ขอฝากเยาวชนที่รักทุกคนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงการเคารพในความคิดเห็น หรือความเชื่อของแต่ละบุคคลที่อาจแตกต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดจากปัจจัยพื้นฐานครอบครัว และท้องถิ่นสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน แต่เราสามารถใช้สิ่งเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ โดยนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รู้จักแบ่งปัน เข้าใจและยอมรับความแตกต่างแบบกัลยาณมิตร ก่อให้เกิดความเป็นธรรมร่วมกันนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขด้วยกันทุกฝ่าย