แผนปฏิบัติการระยะยาวกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ 5 ปีพ.ศ. 2561-2565 (ฉบับทบทวน พ.ศ. 2564)และ แผนปฏิบัติการกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปีบัญชี 2565

             ฮัจย์ เป็นหนึ่งในห้าของข้อปฏิบัติที่มุสลิมต้องปฏิบัติ (ข้อปฏิบัติ ๕ ข้อ คือ การปฏิญาณตน การละหมาด การบริจาค หรือจ่ายซากาต การถือศีลอด และการประกอบพิธีฮัจย์) เป็นศาสนกิจของศาสนาอิสลามที่กำหนดให้มุสลิมที่มีความพร้อมต้องเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ความพร้อมต้องพร้อมทั้งด้านทรัพย์สินและด้านร่างกาย รัฐบาลได้ตระหนักเสมอถึงความสำคัญดังกล่าวและได้ส่งเสริมกิจการฮัจย์ด้วยดีตลอดมาเพื่อแสดงถึงความแน่วแน่ของรัฐบาลในการส่งเสริมกิจการฮัจย์รัฐบาลจึงได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้กำหนดระเบียบ ข้อบังคับ เงื่อนไข หรือมาตรการใด ๆ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในอันที่จะให้ความคุ้มครองผู้ประสงค์จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย และมีหลักประกันในการเดินทางโดยมีกรมการปกครอง ทำหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย

                   การดำเนินการเรื่องที่พักของผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประเทศซาอุดีอาระเบียให้ความสนใจเป็นพิเศษ และมีผลโดยตรงต่อการออกหนังสือตรวจลงตรา (วีซ่า) ให้กับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งในทุกปีจะเกิดปัญหาเรื่องที่พักที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกสุขลักษณะ บางส่วนตั้งอยู่ไกลสถานที่ประกอบศาสนกิจ ซึ่งทางการซาอุดีอาระเบียได้มีข้อท้วงติงอยู่เสมอ จากการวิเคราะห์ปัญหาดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ประกอบกิจการฮัจย์ไม่มีเงินสำรองเพียงพอที่จะใช้เป็นค่าจัดหาหรือจัดเช่าที่พักล่วงหน้าที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในระยะเวลาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนเทศกาลฮัจย์ ต้องรอเก็บจากผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ครั้นเวลาใกล้จะถึงเทศกาลฮัจย์จึงได้ดำเนินการจัดหาที่พัก ทำให้ได้ที่พักที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่ถูกสุขลักษณะ และมีราคาค่อนข้างสูง รวมทั้งมีการจัดผู้แสวงบุญเข้าพักเกินกว่าที่ระเบียบกำหนด เป็นต้น

                   การจัดตั้งกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมกิจการฮัจย์ของรัฐบาลไทยเพื่อที่จะดำเนินการช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริม ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างสะดวกสบายและถูกต้องตามหลักการศาสนาอิสลาม โดยไม่ต้องห่วงปัญหาเรื่องที่พักอีกต่อไป และเนื่องจากมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 ได้กำหนดให้กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม โอนกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ตามระเบียบ
กรมการศาสนาว่าด้วยกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ พ.ศ. 2549 ไปเป็นของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2559 โดยกองทุนมีคณะกรรมการบริหารกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ เป็นผู้กำหนดระเบียบ ข้อบังคับ เงื่อนไข หรือมาตรการใด ๆ เพื่อเป็นแนวทางปฎิบัติในอันที่จะให้ความคุ้มครองผู้ประสงค์จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัย์ให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัยและมีหลักประกัน โดยมีผู้บริหารกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ (ผู้อำนวยการกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย) เป็นกรรมการและเลขานุการ

แผนปฏิบัติการระยะยาวกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ปีบัญชี  2561-2565

วิสัยทัศน์

“เป็นกองทุนหลัก ที่สนับสนุนให้ผู้แสวงบุญชาวไทยได้รับความสะดวกในการไปประกอบพิธีฮัจย์”

เป้าหมายหลัก         

                   ผู้แสวงบุญชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในการประกอบพิธีฮัจย์ ได้รับการบริการที่พักที่มีมาตรฐาน

พันธกิจ

                   1. ส่งเสริมการบริหารและจัดการกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย

                   2. พัฒนาระบบการยืมเงินสำรองจ่ายค่าเช่าที่พักสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์

วัตถุประสงค์ของกองทุน

                   1.เพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายค่าที่พักเป็นการล่วงหน้าสำหรับผู้แสวงบุญชาวไทยที่จะเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

                   2. เพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายและหรือค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการงานที่เกี่ยวกับกิจการฮัจย์ตามที่คณะกรรมการกำหนด