ภาพสไลด์กิจกรรม


อธิบดีกรมการปกครอง ติดตามคณะ มท.1 ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่

15 มีนาคม 2564

อธิบดีกรมการปกครอง ติดตามคณะ มท.1 ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 11 มี.ค.2564 เวลา 09:30 น. ที่ห้องประชุมจามเทวี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดลำพูน จ.ลำพูน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม โดยมี นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน ร่วมประชุม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นถึงความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัด คือ การบริหารจัดการน้ำ และการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จึงขอให้ดำเนินการตามแผนที่ได้กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จุดแข็งของจังหวัดลำพูนที่เป็นแบบอย่าง คือ การได้รับรางวัล "จังหวัดสะอาด" อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งถือเป็นตัวอย่างให้กับจังหวัดอื่น ๆ และเพื่อเป็นการต่อยอดจากการเป็นจังหวัดสะอาดแล้ว ขอให้จังหวัดลำพูนได้พัฒนาพื้นที่จังหวัดให้มีความสวยงามควบคู่ไปด้วย ให้พื้นที่มีหมู่บ้านที่สวยงาม มีแหล่งน้ำสะอาดคู่กับบริเวณที่สวยงาม เพื่อจะเกิดประโยชน์กับประชาชน และขอให้คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ดำเนินการให้เป็นไปตามประเด็นความต้องการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

จากนั้น เวลา 13.30 น. ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ชื่นชมจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้บูรณาการทุกภาคส่วนขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในภาพรวม รวมทั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้นำองค์ความรู้มาสร้างนวัตกรรม ทำให้เกิดการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะมหกรรมพืชสวนโลกเชียงใหม่ และเชียงใหม่ 12 เดือน เมืองเทศกาล โดยสิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการสร้างความรับรู้ให้กับพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปด้วย สำหรับในเรื่องการจัดการปัญหา PM 2.5 ขอให้ขับเคลื่อนมาตรการที่ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องและนำแนวทางการลดเชื้อเพลิงเพื่อไปสร้างมูลค่าเพิ่มมาประยุกต์ใช้ นอกจากนี้ ในการแก้ปัญหาคลองแม่ข่า ต้องสร้างความร่วมมือของทุกคนในการบำบัดน้ำเสียตั้งแต่ครัวเรือนแหล่งกำเนิด (ต้นทาง) เพื่อให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสร้างโอกาสให้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม อย่างยั่งยืน