ภาพสไลด์กิจกรรม


อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมแถลงข่าวทลายแท่นปั๊มยาบ้ากลางเมืองสุพรรณบุรี

3 พฤษภาคม 2567

อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมแถลงข่าวทลายแท่นปั๊มยาบ้ากลางเมืองสุพรรณบุรี รวบผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ยาบ้า 4.5 ล้านเม็ด

วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00 น. ณ ตำรวจภูธรภาค 1 เขตจตุจักร กรุงเทพ ฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวทลายแท่นปั้มยาบ้ากลางเมืองสุพรรณบุรี ร่วมกับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล พันเอก สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และร้อยตรี ทองปอนด ถาวรสถิตย์ เลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย

โดย พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผู้กำกับการสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพล หน่วยข่าวกรองทางทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันปฏิบัติการสืบสวนหาข่าว ติดตาม

พิสูจน์ทราบ ชี้เป้าหมาย และนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาพักเก็บและลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 2 คน ได้แก่

1) นายสมประสงค์ สงวนนามสกุล อายุ 38 ปี

2) นายทัชชกร สงวนนามสกุล อายุ 40 ปี

พร้อมของกลาง จำนวน 7 รายการ ประกอบด้วย

1) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 4,564,000 เม็ด

2) รถยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น Freed สีขาว

3) รถยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น Civic สีเทา

4) รถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-max สีเทา

5) เครื่องอัดเม็ดยาเสพติด จำนวน 1 เครื่อง

6) โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 2 เครื่อง

โดยตรวจยึดและจับกุมได้ ณ บริเวณอาคารในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 76,500,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป