รู้หรือไม่ !! การขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจดอกไม้เพลิง สาหรับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิง ควรปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
16 พฤศจิกายน 2561
16 พฤศจิกายน 2561

ปัจจุบันการจุดพลุและดอกไม้เพลิงได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งบางครั้งเป็นการเล่นอย่าง คึกคะนองไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่น โดยกรมการปกครองมีภารกิจหน้าที่และความรับผิดชอบตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ซึ่งการขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจดอกไม้เพลิง สาหรับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิง ควรปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด กล่าวคือ
1. การทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าดอกไม้เพลิง ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และโดยอนุมัติของรัฐมนตรี นายทะเบียนท้องที่อาจกำหนดเงื่อนไขลงในใบอนุญาตว่าด้วยการเก็บรักษาดอกไม้เพลิงก็ได้ตามสมควร
2. ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนท้องที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. การจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากนายอำเภอ หรือผู้อำนวยการเขตแล้วแต่กรณี ตามหลักเกณฑ์การอนุญาตที่กำหนดไว้ในประกาศจังหวัดหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครซึ่งออกตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27/2559 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2559โดยเคร่งครัด หากไม่มีประกาศจังหวัดหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ห้ามมิให้อนุญาต การจุดโดยเด็ดขาด
4. การฝ่าฝืนประกาศจังหวัดหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งออกตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27 /2559 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามข้อ 5 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27/2559 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2559
5. นายทะเบียนท้องที่และเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบแนะนำร้านค้า ที่จำหน่ายดอกไม้เพลิงและแหล่งผลิตให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องกวดขันห้ามมิให้มีการจำหน่ายดอกไม้เพลิงนอกเหนือจากสถานที่ค้า ที่ได้รับอนุญาตเป็นอันขาด
สำหรับเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้ นายอำเภอต้องกวดขันและตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิง ท่าเรือ เรือหรือโป๊ะ สถานีขนส่ง โดยประสานสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคและเจ้าหน้าที่ตำรวจใน การกำกับดูแล สอดส่อง ตรวจตราสถานที่ดังกล่าว เพื่อมิให้เกิดอุบัติภัยหรืออุบัติเหตุจากการจุดและปล่อย พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน และกำชับมิให้ท่าเรือ เรือ หรือโป๊ะ มีการบรรทุกประชาชนผู้โดยสารหรือผู้มาร่วมงานประเพณีลอยกระทงจนมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน