Best Practice : การสำรวจข้อมูลและการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ กรณีศึกษา อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี

อ.มะขาม จ.จันทบุรี มีผู้ลงทะเบียนได้รับผลกระทบ ในระบบ Thai QM จำนวน 669 คน จาก 59 หมู่บ้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2563) อำเภอได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบมีเพียง 1.9 % (จากจำนวนผู้ที่เดินทางกลับเข้ามาในอำเภอ 501 คน รวมกับประชากรในระบบของสำนักทะเบียนอำเภอ 32,172 คน) โดยส่วนมากมีความต้องการเงินช่วยเหลือ และถุงยังชีพ ซึ่งเหตุผลที่มีผู้ลงทะเบียนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนน้อยเนื่องจากประชาชนในพื้นที่อำเภอมะขาม มากกว่า 80% ประกอบอาชีพเกษตรกร ด้านการทำสวนผลไม้ ซึ่งยังสามารถประกอบอาชีพได้ปกติ ราคาผลผลิตในปีนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ราคาสูง (ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลผลิต) ดังนั้นอำเภอจึงเน้นการช่วยเหลือไปที่กลุ่มอื่น เช่น ผู้ที่มีอาชีพอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เกษตรกร เช่น อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ขับรถประจำทาง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เป็นต้น

การบริหารจัดการของอำเภอ​ มีดังนี้

1. มอบหมายให้กำนันสำรวจและบันทึกข้อมูลในระบบ Thai QM

2. ขณะที่มีการสำรวจสอบถามข้อมูล ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พิจารณาคัดเลือกผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ หรือมีความยากลำบาก ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

3. นายอำเภอได้ระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนภายในอำเภอ ทั้งหน่วยงานของรัฐ เอกชน และประชาชน ในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบฯ โดยการมอบถุงยังชีพจากสำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอมะขามในคราวเดียวกับการลงสำรวจข้อมูลฯ 

ดูน้อยลง