"คำถามยอดฮิต สำหรับผู้ซื้ออาวุธปืนสวัสดิการ"

15 มิถุนายน 2559


15 มิถุนายน 2559

ถามมา-ตอบไป / Ask & Question

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับอาวุธปืน

          ปัจจุบันหลาย ๆ ท่านซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ซื้ออาวุธปืนจากโครงการสวัสดิการที่ส่วนราชการต่าง ๆ จัดทำขึ้น และเมื่อท่านได้ซื้ออาวุธปืนดังกล่าวแล้ว แต่รอตั้งนานก็ไม่ได้รับเอกสารการตัดโอนเสียที จึงมีข้อสงสัยและเป็นคำถามยอดฮิต ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร เราไปติดตามคำตอบกันครับ           ถามการซื้ออาวุธปืนจากโครงการสวัสดิการต่าง ๆ นั้น มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร
ตอบ: เมื่อผู้ซื้อได้ซื้ออาวุธปืนสวัสดิการแล้ว ผู้ซื้อยังมีหน้าที่จะต้องนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาวุธปืน ไปยื่นต่อนายทะเบียนท้องที่อันเป็นที่ตั้งของโครงการ เช่นในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นได้ที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อดำเนินการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 เมื่อศูนย์บริการประชาชนดำเนินการเสร็จแล้วจะส่งเอกสารการตัดโอนของท่านไปยังอำเภอที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ และจะแจ้งให้ท่านทราบทางไปรษณียบัตร เพื่อให้ท่านนำอาวุธปืนไปให้อำเภอตรวจสอบก่อนชำระค่าธรรมเนียมตามกฎหมายและออกใบ ป.4 ณ ที่ว่าการอำเภอที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ต่อไป

          ถาม ทำไมซื้ออาวุธปืนสวัสดิการแล้ว ยังไม่ได้ใบสลักหลังตัดโอน ป.3
ตอบ:ข้อมูลจากการปฏิบัติงานของศูนย์บริการประชาชนที่ผ่านมาพบว่า การสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 ของผู้ซื้ออาวุธปืนจากโครงการสวัสดิการต่างๆ จะเกิดปัญหาหลายประการ เช่น
          1. ศูนย์บริการประชาชนไม่ได้รับเอกสารหลักฐาน (พบประมาณ 90 %)อันเนื่องจาก
             1.1 ผู้ซื้ออาจมอบหมายให้ผู้อื่นนำเอกสารหลักฐานมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชน แต่ผู้รับมอบหมายไม่ได้นำเอกสารหลักฐานมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชนหรือนำมายื่นล่าช้า (พบประมาณ 85%)กรณีนี้พบได้บ่อยที่สุด โดยเมื่อผู้ซื้อได้ซื้ออาวุธปืนเสร็จแล้ว ได้มอบหมายให้บุคคลอื่นมายื่นเอกสารหลักฐานที่ศูนย์บริการประชาชนแทน แต่บุคคลผู้รับมอบหมายนั้นไม่นำเอกสารหลักฐานดังกล่าวมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชนโดยเร็ว บางรายนำเอกสารมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชนหลังจากที่ผู้ซื้อได้ซื้ออาวุธปืนแล้วหลายเดือน จนบางครั้งใบ ป.3 ขาดอายุ แต่ยิ่งไปกว่านั้นมีจำนวนมากที่ผู้รับมอบหมายทำเอกสารหลักฐานสูญหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ.2554 ซึ่งมีเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ และในช่วงปี พ.ศ.2556-2557 ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง พบว่ามีเอกสารสูญหายเป็นจำนวนมาก
             1.2 ผู้ซื้อได้ซื้ออาวุธปืนไปแล้ว แต่ไม่นำเอกสารมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชน (พบประมาณ 5%)ส่วนใหญ่เนื่องจากผู้ซื้ออาวุธปืนเข้าใจว่า เมื่อเจ้าหน้าที่โครงการปืนสวัสดิการลงนามจ่ายอาวุธปืนแล้ว กระบวนการทางด้านเอกสารถือว่าแล้วเสร็จ จึงนำอาวุธปืนและเอกสารการจ่ายปืนกลับไปด้วย และไม่ได้ทำอะไรอีกเลย
         2. ศูนย์บริการประชาชนดำเนินการเสร็จแล้ว และจัดส่งเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 ไปให้อำเภอที่เป็นภูมิลำเนาของท่านแล้ว แต่เอกสารสูญหายที่ปลายทางหรือระหว่างทาง (พบประมาณ 10 %)
          การจัดส่งเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 ไปยังอำเภอต่าง ๆ จะจัดส่งทางจดหมายลงทะเบียน หรือจดหมายด่วนพิเศษ (EMS) ซึ่งจะสามารถตรวจสอบจากรหัสการส่งได้ภายใน 6 เดือน (เนื่องจากบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จะเก็บข้อมูลให้ตรวจสอบทาง Internet เพียง 6 เดือน เท่านั้น) ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวจะทำให้ทราบว่า มีผู้ใดรับเอกสารไปแล้วเมื่อใด

           ถาม หากซื้ออาวุธปืนสวัสดิการแล้ว มายื่นสลักหลังตัดโอนด้วยตนเองใบ ป.3 ด้วยตนเอง จะยุ่งยากหรือไม่
ตอบ:ขั้นตอนไม่ยุ่งยากใด ๆ ปกติศูนย์บริการประชาชนจะดำเนินการพิจารณาเอกสารหลักฐานไม่เกิน 30 วัน  โดยการดำเนินการออกเอกสารสลักหลังตัดโอนจะมีการตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องของเอกสาร เช่น  การลงนามรับรองในเอกสาร การระบุรายการจ่ายอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่โครงการปืนสวัสดิการ และการรับรองของเจ้าหน้าที่โครงการปืนสวัสดิการ เป็นต้น  ซึ่งหากเกิดเหตุที่ไม่ครบถ้วนใด ๆ ศูนย์บริการประชาชนจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนทุกกรณี

          ถามหากยังไม่ได้รับเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 จะต้องดำเนินการอย่างไร

ตอบ:หากท่านที่ซื้ออาวุธปืนและได้ยื่นคำขอที่ศูนย์บริการประชาชนไปแล้ว 30 วัน ยังไม่ได้รับไปรษณียบัตรแจ้งว่าศูนย์บริการประชาชนได้พิจารณาคำขอของท่านแล้วเสร็จ หรือหากท่านประสบปัญหาไม่ได้รับเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 เกินกว่า
30 วัน นับจากวันยื่นคำขอ ให้ท่านสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝ่ายบริการภูมิภาค) โทร 02-356-9687 ,
02-356-9514 โดยให้แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล เครื่องหมายทะเบียนปืน และเลขหมายประจำปืน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากตรวจสอบพบว่า
1. อยู่ระหว่างการดำเนินการของศูนย์บริการประชาชน จะเร่งดำเนินการสลักหลังตัดโอนให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือสำหรับประชาชน

2. ศูนย์บริการประชาชนดำเนินการเสร็จแล้ว และจัดส่งเอกสารการตัดโอนไปให้อำเภออันเป็นภูมิลำเนาของท่านแล้ว แต่เอกสารสูญหาย ให้ท่านแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้บันทึกประจำวันว่าเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 สูญหาย จากนั้นให้ไปยื่นคำขอที่อำเภออันเป็นภูมิลำเนาขอให้ทำหนังสือถึงศูนย์บริการประชาชนเพื่อขอคัดสำเนาหลักฐานการสลักหลังตัดโอน หรือท่านอาจมายื่นคำขอคัดสำเนาเอกสารการสลักหลังตัดโอนที่ศูนย์บริการประชาชนด้วยตนเองก็ได้ โดยใช้เอกสารประกอบคำขอ ดังนี้
    2.1 สำเนาบันทึกประจำวันว่าเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 สูญหาย
    2.2 สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 1 ฉบับ
    2.3 สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
    2.4 ข้อมูลอาวุธปืน อย่างน้อยต้องทราบเครื่องหมายทะเบียน และเลขหมายประจำปืน (ดูได้ที่ตัวอาวุธปืน)

3. ท่านยังไม่ได้นำเอกสารหลักฐานมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชน ไม่ว่าจะด้วยเหตุท่านไม่ได้นำมายื่นเองหรือผู้รับมอบหมายไม่ได้นำมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชน ก็ให้นำเอกสารหลักฐานและอาวุธปืนมายื่นที่ศูนย์บริการประชาชนเพื่อขอสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 แต่หากเอกสารหลักฐานดังกล่าวสูญหาย ให้ท่านดำเนินการ ดังนี้
    3.1 แจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้บันทึกประจำวันว่าเอกสารการสลักหลังตัดโอนใบ ป.3 สูญหาย
    3.2 ขอคัดสำเนาต้นขั้วใบ ป.3 ที่อำเภอ และให้นายทะเบียนท้องที่ (นายอำเภอ) ลงนามรับรองเอกสาร จำนวน 2 ฉบับ หรือยื่นคำขอเพื่อออกใบ ป.3 ฉบับใหม่ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขอคัดสำเนาขั้วใบ ป.3 หรือการออก ใบ ป.3 ใหม่ หรือการดำเนินการใด ๆ นอกจากที่กล่าวนี้ นายทะเบียนท้องที่อาจใช้ดุลยพินิจพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย
    3.3 นำเอกสารต่อไปนี้ มายื่นที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอสลักหลังตัดโอน
           (1) สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ  จำนวน 1 ฉบับ
           (2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
           (3) สำเนาต้นขั้วใบ ป.3 ที่นายทะเบียนท้องที่ (นายอำเภอ) ลงนามรับรองเอกสาร จำนวน 2 ฉบับ หรือใบ ป.3 ฉบับใหม่  จำนวน 2 ตอน
           (4) อาวุธปืน
           (5) สำเนาใบ ป.3 เดิม ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่มีการบันทึกรายละเอียดการจ่ายปืน(ถ้ามี) และนำไปให้เจ้าหน้าที่โครงการปืนสวัสดิการลงนามรับรอง
          (6) หากไม่มีเอกสารตาม (5) นำเอกสารหลักฐานตามข้อ (1) - (4) ไปให้เจ้าหน้าที่โครงการปืนสวัสดิการบันทึกรายละเอียดการจ่ายปืนก่อน

          การยื่นคำขอใด ๆ ที่ศูนย์บริการประชาชนด้วยตนเอง ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่หากมีปัญหา หรือมีเหตุขัดข้อง หรือไม่ได้รับความสะดวกประการใดที่ท่านหรือเจ้าหน้าที่ไม่อาจตัดสินใจได้ ท่านสามารถเข้าพบผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชนเพื่อแจ้งปัญหาและแนวทางแก้ไขได้ทุกกรณีครับ