ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการเผยแพร่ข่าวสารของกลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่แสดงการปกป้องศาสนาเพื่อสันติภาพ

กรมการปกครอง (วังใชยา) ถนนนครสวรรค์ แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 อีเมล : haj@dopa.go.th โทรศัพท์ : 02-282-1461 แฟกซ์ : 02-282-1460

1 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565

1 ธันวาคม 2564

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบข่าวสารในประเด็นดังกล่าวแล้ว ขอนำเรียนข้อเท็จจริง
ในแต่ละประเด็น ดังนี้

กรณีการนำเสนอคลิปวีดิโอผ่านช่องทางออนไลน์ โจมตีการสร้างเสาไฟฟ้าสัญลักษณ์มุสลิม รูปพระจันทร์เสี้ยว โดยกล่าวอ้างว่าเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการแบ่งแยกและยึดพื้นที่ของชาวมุสลิมนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้ว การดำเนินการสร้างเสาไฟฟ้าดังกล่าว เทศบาลนครแม่สอดได้มีการประชุมเตรียมการผ่านความเห็นชอบของสภาสมาชิกเทศบาลนครแม่สอด มาตั้งแต่ปี 2562 ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการสร้างเสาไฟฟ้าส่องสว่างถนนสายวัฒนธรรมมุสลิม ยอดเสามีสัญลักษณ์รูปดาวและพระจันทร์เสี้ยว เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของโครงการเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้มีการสร้าง
เสาไฟฟ้ารูปอื่น ๆ ที่แสดงถึงวัฒนธรรมอย่างหลากหลาย อาทิ รูปหงส์ มังกร ราชสีห์ คชสีห์ เป็นต้น มิได้มีเจตนาเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการแบ่งแยกยึดพื้นที่ของชาวมุสลิม ตามที่นำเสนอข่าวสารแต่อย่างใด

สำหรับคลิปวีดิโอที่นำเสนอทางโซเชียลมีเดีย กรณีการต่อต้านการสร้างมัสยิดรุกล้ำบริเวณพื้นที่ชายหาด จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 โดยกล่าวอ้างว่า การก่อสร้างมัสยิดรุกล้ำบริเวณชายหาดในพื้นที่ จ.สงขลา 
ไม่มีการทำประชาพิจารณ์จากพี่น้องชาวไทยพุทธซึ่งเป็นคนไทยส่วนใหญ่ในพื้นที่ แสดงถึงความไม่ยุติธรรม เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ จึงเรียกร้องให้คนในพื้นที่ ออกมาป้องกันการกระทำดังกล่าว ซึ่งการตรวจสอบในพื้นที่ทราบว่า มัสยิดดังกล่าวชื่อมัสยิดดารุลอามาน (บาลายเก้าเส้ง) ที่ตั้งบริเวณชายหาดชลาทัศน์ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา มีการก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่ชายหาดสาธารณะ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลนครสงขลา โดยมัสยิดดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากมัสยิดอัลฮีดายะห์ (ชุมชนเก้าเส้ง) ซึ่งตั้งอยู่เดิมภายในชุมชนเก้าเส้ง ประมาณ 100 เมตร และมีการก่อสร้างเมื่อปี 2556 เพื่อเป็นสถานที่ละหมาด เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้นำศาสนาในขณะนั้น ซึ่งได้มีการขออนุญาตต่อเทศบาลนครสงขลา 
แต่ต่อมาเทศบาลนครสงขลาได้ยกเลิกการอนุญาตก่อสร้าง โดยให้เหตุผลว่าการก่อสร้างบุกรุกพื้นที่สาธารณะชายหาดชลาทัศน์ และให้มีการรื้อถอน แต่ได้รับการคัดค้านจากชุมชนในพื้นที่ ปัจจุบันกรรมการมัสยิดได้มีการอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว

ทั้งนี้ยังปรากฏข่าวสารในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องอีกด้วย อาทิ การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการเปิดมัสยิด 
จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2562 รวมถึงกรณีการเผยแพร่ข่าวสารทางสื่อออนไลน์ที่กล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองมีการออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่คนมุสลิมต่างด้าว โดยข่าวสารดังกล่าว เคยปรากฏในกลุ่มไลน์กลุ่มหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ทั้งนี้ กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่ประการใด โดยจะเห็นได้ว่า การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารรวมถึงคลิปวีดิโอการเคลื่อนไหวของกลุ่มเหล่านั้น เป็นการนำเสนอซ้ำอีกครั้งในข้อมูลเดิม ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข่าวสารและคลิปวีดีโอของกลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่กล่าวหากรมการปกครอง กรณีจัดตั้งกองซึ่งเป็นส่วนราชการที่สนับสนุนแต่กิจการของศาสนาอิสลาม โดยไม่มีการจัดตั้งกองที่สนับสนุนกิจการของศาสนาพุทธ หรือศาสนาอื่น ๆ นั้น กรมการปกครองขอเรียนว่า การจัดตั้งกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์ เป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 กำหนดให้โอนงานส่งเสริมกิจการฮัจย์ จากกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มาเป็นของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรในส่วนภูมิภาค ให้บริการประชาชนในทุกพื้นที่ ดังนั้น กรมการปกครอง จึงได้มีคำสั่งจัดโครงสร้างส่วนราชการและการแบ่งงานภายในกรม โดยจัดตั้งกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์ มีฐานะเป็นส่วนราชการภายใน มีภารกิจหลักตามกฎหมาย ได้แก่ พ.ร.บ.การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 รวมถึง พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

กรมการปกครองให้ความสำคัญในการส่งเสริมศาสนาทุกศาสนา โดยได้กำหนดโครงการสำคัญที่เป็นจุดเน้น หรือ 10 Flagships to DOPA All Smart 2022 โดยส่วนที่ 1 E-DOPA Heart ข้อ 3 การปกป้องเทิดทูน สถาบันหลักของชาติ กำหนดให้มีการส่งเสริมกิจกรรม ทำนุบำรุงศาสนา “โครงการวัดประชา รัฐ สร้างสุข” และส่งเสริมกิจกรรมตามหลัก “บวร” และ “บรม” ซึ่งกรมการปกครองได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกพื้นที่ ด้วยหน้าที่ของฝ่ายปกครอง คือ “ทำให้ประชาชน ทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น”