กรมการปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวต่างชาติก่อเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงการแก้ไขปัญหาการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 5 มีนาคม 2567 เวลา 18.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมด้วย นายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการกองการสื่อสาร, นายเสรี กัณฑ์โรจน์ เลขานุการกรมการปกครอง, ร.ต. นิรันดร์ ขวัญบุรี ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ สน.อส. และนายภัคศุก จรูญศักดิ์ ผอ.ส่วนอำนวยความเป็นธรรม สน.สก. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวต่างชาติก่อเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต บริเวณแหลมยามู หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายไพโรจน์ สรีละมุล นายอำเภอถลาง นายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และราษฎร นำเข้าพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นปรากฏว่า บริเวณบ้านวิลล่าตามข่าวปัจจุบันได้มีการรื้อถอนสิ่งรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ (แนวบันไดคอนกรีต) บริเวณชายหาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมอบหมายให้อำเภอถลาง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบที่ดินสำหรับประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าเป็นโดยสภาพธรรมชาติ โดยการใช้ร่วมกันของประชาชน โดยทางนิติกรรม หรือโดยผลของกฎหมาย ว่ามีการบุกรุกยึดถือครอบครอง เข้าทำประโยชน์เพื่อบ้านพักอาศัย โรงแรม วิลล่า ที่พัก อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด รุกล้ำที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหรือไม่ หากพบเห็นให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด และได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สาธารณะ (ชายหาด) กว่า 300 หลังคาเรือน (ประมาณ 800 คน) เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่ส่วนรวม ให้ประชาชนได้ใช้สอยประโยชน์อย่างเป็นระบบ

ในส่วนของพฤติกรรมที่ชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง ขณะนั่งบริเวณแนวบันคอนกรีต พร้อมทั้งมีการพูดจาดูถูกและข่มขู่นั้น มีการดำเนินการ ดังนี้

1. จังหวัดภูเก็ตโดยคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองพฤติกรรมคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักร (พื้นที่จังหวัดภูเก็ต) ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมาย ได้มีมติให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลประวัติ การประกอบธุรกิจ พฤติกรรมการอยู่อาศัยในราชอาณาจักรไทย และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. กรณีการเพิกถอน Visa จังหวัดภูเก็ตได้ส่งข้อมูลหลักฐาน และเร่งให้ ตม.จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการเพื่อขอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว (Visa) โดยขั้นตอนต้องจะต้องผ่านคณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองพฤติกรรมชาวต่างชาติเพื่อขอถอนวีซ่า

3. จังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ (Re X-ray) เช่น จำนวนผู้มีอิทธิพล การแยกประเภทข้อมูลบัญชี เป็นต้น รวมทั้งร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

การดำเนินการข้างต้น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ปฏิบัติตามนโยบายของท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครองและผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่า "จะไม่ให้มีนักเลง ผู้มีอิทธิพลต่างชาติ มามีอำนาจอิทธิพล และประพฤติตัวที่ไม่ดีในประเทศไทยเป็นอันขาด" เพื่อเสริมสร้างสวัสดิภาพความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อย และ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนต่อไป