กรมการปกครอง ลงนาม MOU กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย “จัดตั้ง อส.กู้ภัย” สนับสนุนภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข บรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติเพื่อประชาชน
28 มกราคม 2568
กรมการปกครอง ลงนาม MOU กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย “จัดตั้ง อส.กู้ภัย” สนับสนุนภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข บรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติเพื่อประชาชน
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กับ กรมการปกครอง
โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามเป็นพยาน พร้อมด้วยผู้บริหารและข้าราชการของทั้งกรมการปกครองและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง ว่าสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุสาธารณภัยต่าง ๆ ได้ในระดับพื้นที่ จึงจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ขึ้นเพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อให้สามารถประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และภาคีเครือข่าย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานสนับสนุนการจัดการสาธารณภัย การค้นหาและกู้ภัย และ การใช้งานเครื่องจักรกลสาธารณภัย ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
โดยจัดทำหลักสูตร “จัดตั้ง อส.กู้ภัย” และดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พัฒนาทักษะด้านการค้นหาและกู้ภัยและการใช้งานเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ส่วนกรมการปกครองจะสนับสนุนข้อมูลในการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรม พิจารณาคัดเลือกสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนเข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรม และสนับสนุนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนเข้าร่วมการปฏิบัติภารกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ในการนี้ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองได้มีการพัฒนาศักยภาพและทักษะการปฏิบัติงานให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ภัยพิบัติได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ซับซ้อน ขยายเป็นวงกว้าง และมีลักษณะประเภทภัยที่แตกต่างไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อส่งเสริมให้กำลังพลอาสารักษาดินแดนมีทักษะความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะช่วยให้สามารถสนับสนุนการเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนตามกลไกกฎหมายด้านการจัดการสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะมุ่งมั่นดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข บรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติเพื่อประชาชน
ที่มาข่าว สล. ปค. fanpage