ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ทางภาคใต้ของประเทศไทย ที่ต้องพบกับมรสุมที่หอบเอาลมฝนจากทั้งทะเลฝั่งอันดามัน และฝั่งทะเลอ่าวไทย ทำให้เกิดฝนตกชุกมากแปดเดือน นำมาซึ่งอุทกภัยที่เกิดจากการก่อสร้างสิ่งปลุกสร้างขวางทางทางไหลของน้ำ

นโยบายการสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้อย่างยั่งยืน ไม่ให้เกิดซ้ำรอยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2559 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินหน้าเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ให้มีผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม

โดยตั้งเป้าหมายลดความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ได้มากกว่าร้อยละ 60 พื้นที่รอบนอกต้องมีการท่วมขังของน้ำไม่เกิน 7 วัน และไม่สร้างความเสียหายต่อพืชผลการเกษตร พื้นที่ชุมชนรอบใน และบ้านเรือนที่อยู่อาศัย จะมีน้ำท่วมได้ไม่เกิน 1-2 วันเท่านั้น พื้นที่ซ้ำซาก ต้องดูแล ควบคุม บริหารจัดการให้เกิดผลเสียต่อประชาชนให้น้อยที่สุด

ขณะเดียวกันการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การแก้ไขปัญหาน้ำมีความยั่งยืน โดยเฉพาะการหาพื้นที่กักเก็บน้ำในช่วงน้ำหลาก เพื่อนำไปใช้ในช่วงหน้าแล้ง พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานไว้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

นอกจากการร่วมมือกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในบริหารจัดการน้ำ การปรับโครงสร้างผังเมือง ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งรัฐบาลกำลังมีแผนเดินหน้าในการจัดทำผังเมืองทั้งระบบให้มีความสอดคล้องกับการระบายน้ำ ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการแก้ไขปัญหา ทำให้ส่วนรวมไม่ต้องได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอีกต่อไป

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์