การตั้งคำถามของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนในสังคมร่วมกันหาทางออก ด้วยการตั้งคำถาม 4 ข้อ โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลัก ในการขับเคลื่อนกระบวนการรวบรวมคำตอบจากประชาชน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ

ซึ่งพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่ในกรุงเทพมหานคร และส่วนภูมิภาคที่จะรับฟังความเห็นของประชาชน แนวทางนี้จะเริ่มดำเนินการในวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 เวลาราชการ ตั้งแต่ 08.00-16.30 น. ซึ่งขณะนี้ยังไม่กำหนดเวลาปิดการแสดงความคิดเห็น โดยผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นหรือตอบคำถามจะต้องไปแสดงตัว ที่ทำการเขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร หรือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหรือศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทั่วประเทศ พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งงานนี้จะไม่มีการใช้สิทธิ์ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันการสวมสิทธิจากบุคคลอื่น

ซึ่งทางการจะมีแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลการแสดงความคิดเห็น จากนั้นศูนย์ดำรงธรรมจะรวบรวมและส่งต่อให้จังหวัดสรุปผลอีกที ก่อนส่งมาให้กระทรวงมหาดไทย 10 วันต่อครั้ง และจะนำผลรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ทุกๆ 10 วัน นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่ทำเนียบรัฐบาลและที่กระทรวงมหาดไทยได้อีกด้วย

โดยคำถามที่นายกรัฐมนตรีตั้งถามกับประชาชนนั้น คือ ท่านคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ หากไม่ได้จะทำอย่างไร การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปนั้นถูกต้องหรือไม่ และคิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร

การรับฟังเสียงของประชาชนโดยตรง ด้วยคำถามที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา อาจจะเป็นอีกกระบวนการหนึ่ง ที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ และทำให้รัฐบาลได้รับข้อมูลทางตรง เพื่อนำมาเป็นแนวทางการพิจารณาต่อการหาทางออกในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหลายฉบับกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์