แบบทดสอบความรู้ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558

22 เมษายน 2564


22 เมษายน 2564

1. ข้อใดคือการแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งที่ถูกต้อง

ก. แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง แจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน แจ้งทางโทรสาร

ข. แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง แจ้งทางโทรศัพท์ แจ้งทางโทรสาร

ค. แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง แจ้งทางโทรสาร แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

ง. แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง แจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน แจ้งทางโทรศัพท์

เฉลยคำตอบ

          ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ประกาศ ณ วันที่           3 พฤศจิกายน 2558 โดยที่การจัดการชุมนุมสาธารณะไม่ต้องมีการขออนุญาต แต่ต้องแจ้งการชุมนุมสาธารณะนั้น ต่อผู้รับแจ้งตามกฎหมาย จึงสมควรกําหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ให้เกิดความสะดวกแก่ผู้แจ้ง และเป็นข้อมูลแก่ผู้รับแจ้ง เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบสิทธิ และเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น

          ข้อ 2 ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้รับแจ้งซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีตํารวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะตามแบบท้ายประกาศนี้ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง

          กรณีประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะในท้องที่ของสถานีตํารวจต่าง ๆ เกินกว่าหนึ่งท้องที่ ซึ่งมีเขตต่อเนื่องกัน ให้แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้รับแจ้งในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดก็ได

          ข้อ 3 ภายใต้บังคับของข้อ ๒ การแจ้งให้ดําเนินการโดยวิธีหนึ่งวิธีใด ดังต่อไปนี้

          (๑) แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง

(๒) แจ้งทางโทรสาร

(๓) แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

ดังนั้น การแจ้งจะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้รับแจ้งซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีตํารวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะตามแบบที่กำหนดไว้ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยการแจ้งให้ดำเนินการได้ 3 วิธี คือ (๑) แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง (๒) แจ้งทางโทรสาร และ(๓) แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อพิจารณาคำตอบ จะเห็นว่า คำตอบ ค. เป็นไปตามข้อ 3 ของประกาศดังกล่าว     

          สรุป คำตอบ ค. เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

                       

  1.  

ก. อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นสถานที่ชุมนุม

ข. รักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวก หรือบรรเทาเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ชุมนุม

ค. รักษาความปลอดภัยหรืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมในสถานที่ชุมนุม

ง. ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

 

 

 

 

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 19 วรรคสี่ บัญญัติว่า เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความสะดวกของประชาชน การดูแลการชุมนุมสาธารณะและการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

            (1) อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นสถานที่ชุมนุม

          (2) รักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวก หรือบรรเทาเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ชุมนุม

          (3) รักษาความปลอดภัยหรือความอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมในสถานที่ชุมนุม

          (4) อำนวยความสะดวกในการจราจรและการขนส่งสาธารณะในบริเวณที่มีการชุมนุมและบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการชุมนุมที่น้อยที่สุด

          (5) กำหนดเงื่อนไขหรือมีคำสั่งให้ผู้จัดการชุมนุม ผู้ชุมนุม หรือผู้อยู่ภายในสถานที่ชุมนุมต้องปฏิบัติตามเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

ดังนั้น การดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 19 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัตินี้

          สรุป คำตอบ ง. เป็นคำตอบที่ผิด               

 

3. ในกรณีมีการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบหรือฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมเลิกหรือแก้ไขการชุมนุมภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ จะปฏิบัติอย่างไร

             ก. ร้องขอต่อศาลแพ่งหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอำนาจเหนือ เพื่อมีคำสั่งให้เลิกการชุมนุมสาธารณะนั้น

ข. เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะมีอำนาจสั่งให้ผู้ชุมนุมยติการกระทำนั้น

ค. ร้องขอต่อศาลปกครองที่มีเขตอำนาจเหนือ เพื่อมีคำสั่งให้เลิกการชุมนุม

ง. แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้มีคำสั่งเลิกการชุมนุมสาธารณะ

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 21 บัญญัติว่า ในกรณีมีการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 14 หรือกรณีผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุมฝ่าฝืนมาตรา 7 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 8 มาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 หรือมาตรา 18 ให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะดำเนินการ ดังต่อไปนี้

          (๑) กรณีการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๑๔ หรือไม่เลิกการชุมนุมภายในระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้ต่อผู้รับแจ้งตามมาตรา ๑๘ ให้ประกาศให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมภายในระยะเวลาที่กำหนด

          (๒) กรณีผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุมฝ่าฝืนมาตรา ๗ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๗ ให้ประกาศให้ผู้ชุมนุมแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด

          หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะร้องขอต่อศาลแพ่งหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอำนาจเหนือสถานที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะเพื่อมีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะนั้น ในระหว่างรอคำสั่งศาลให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะมีอำนาจกระทำการที่จำเป็นตามแผนหรือแนวทางการดูแลการชุมนุมสาธารณะที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอแนะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนและคุ้มครองการชุมนุมสาธารณะ

ดังนั้น เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะจะต้องปฏิบัติ โดยร้องขอต่อศาลแพ่งหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอำนาจเหนือสถานที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะ ตามาตรา 21 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

             สรุป คำตอบ ก. ร้องขอต่อศาลฯ          

 

                

4. ข้อใดกล่าวผิด

         ก. พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่งผู้รับแจ้งแต่งตั้งหรือมอบหมายให้รับผิดชอบในการรับหรือส่งหนังสือหรือดำเนินการเกี่ยวกับการรับแจ้งการชุมนุมสาธารณะของหน่วยงาน

         ข. ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้รับแจ้ง ซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง

         ค. การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ให้ดำเนินการได้โดย 4 วิธี

         ง. กรณีประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะในท้องที่ของสถานีตำรวจต่าง ๆ เกินกว่าหนึ่งท้องที่ซึ่งมีเขตต่อเนื่องกันให้แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้รับแจ้งในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดก็ได้

เฉลยคำตอบ

          ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ประกาศ ณ วันที่           3 พฤศจิกายน 2558 ข้อ 2 กำหนดว่า ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้รับแจ้งซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีตํารวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะตามแบบท้ายประกาศนี้ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง … และข้อ 3 กำหนดว่า ภายใต้บังคับของข้อ ๒ การแจ้งให้ดําเนินการโดยวิธีหนึ่งวิธีใด ดังต่อไปนี้ (๑) แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง (๒) แจ้งทางโทรสาร (๓) แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

ดังนั้น การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ให้ดําเนินการโดยวิธีหนึ่งวิธีใด ดังต่อไปนี้ (๑) แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง (๒) แจ้งทางโทรสาร (๓) แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จะเห็นได้ว่า การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ให้ดำเนินการได้โดย 3 วิธี ตาม ข้อ 3 ของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว

         สรุป คำตอบ ค. เป็นคำตอบที่ผิด

 

5. ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของผู้จัดการชุมนุมไม่ถูกต้อง

             ก. ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

             ข. ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ ตลอดจนดูแลและรับผิดชอบให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามมาตรา 16

             ค. ไม่ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าที่มีขนาดหรือระดับเสียงตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด

             ง. ไม่ปราศรัยหรือจัดกิจกรรมในการชุมนุมโดยใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 15 บัญญัติว่า ผู้จัดการชุมนุมมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

          (๑) ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

          (2) ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้สาธารณะ ตลอดจนดูแลและรับผิดชอบให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามมาตรา 16

          (๓) แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบถึงหน้าที่ของผู้ชุมนุมตามมาตรา ๑๖ และเงื่อนไขหรือคำสั่ง

ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

          (๔) ให้ความร่วมมือแก่เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะในการดูแลการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปตาม (๑) และ (๒)

          (๕) ไม่ยุยงส่งเสริมหรือชักจูงผู้ชุมนุมเพื่อให้ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๖

 

 

          (๖) ไม่ปราศรัยหรือจัดกิจกรรมในการชุมนุมโดยใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น

          (๗) ไม่ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าที่มีขนาดหรือระดับเสียงตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด

ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำตอบ ง. ไม่ปราศรัยหรือจัดกิจกรรมในการชุมนุมโดยใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก ตามาตรา 15 (6) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว บัญญัติให้ผู้จัดการชุมนุมมีหน้าที่ไม่ปราศรัยหรือจัดกิจกรรมในการชุมนุมโดยใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น

             สรุป คำตอบ ง. เป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้อง

        

6. ข้อใดมิใช่บทบาทของฝ่ายปกครอง ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

ก. อาจจัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะก็ได้

ข. ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่เมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

ค. ปฏิบัติตามแผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ (ตามมติ ครม. 25 ส.ค.58)

ง. เป็นเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558

          มาตรา 4 กำหนดว่า “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การของรัฐบาล องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานอื่นของรัฐ

          มาตรา 9 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า หน่วยงานของรัฐอาจจัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะก็ได้

          มาตรา 19 วรรคแรก กำหนดว่า ให้หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะ เป็น      เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และให้แจ้งพนักงานฝ่ายปกครองหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะหรือหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐหรือเอกชนในท้องที่นั้นเพื่อทราบ

          มาตรา 19 วรรคหก กำหนดว่า ในกรณีที่เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะร้องขอ ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะดำเนินการตาม   คำร้องขอภายในขอบอำนาจหน้าที่ของผู้นั้น 

          มาตรา 21 วรรคสอง กำหนดว่า หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะร้องขอต่อศาลแพ่งหรือศาลจังหวัดที่มีเขตอำนาจเหนือสถานที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะเพื่อมีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะนั้น ในระหว่างรอคำสั่งศาลให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ   มีอำนาจกระทำการที่จำเป็นตามแผนหรือแนวทางการดูแลการชุมนุมสาธารณะที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอแนะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนและคุ้มครองการชุมนุมสาธารณะ (ต่อมาจึงมี “แผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558” โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558)  

          ดังนั้น หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ที่มีการชุมนุมสาธารณะ เป็นเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะตามพระราชบัญญัตินี้ พนักงานฝ่ายปกครองจึงไม่เป็นเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 19 วรคคแรก แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

             สรุป คำตอบ ง. เป็นคำตอบที่ผิด

  1. . พระราชบัญญัติการชุมสาธารณะ พ.ศ.2558 สอดคล้องกับพันธะกรณีระหว่างประเทศข้อใดมากที่สุด

ก. กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี

ข. กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่ประเทศไทยเป็นภาคี

ค. อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ประเทศไทยเป็นภาคี

ง. อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือ

ยำยีศักดิ์ศรีที่ประเทศไทยเป็นภาคี

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 132 ตอนที่ 63 ก หน้า 19 วันที่ 14 กรกฏาคม 2558 เมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจานุเบกษาเป็นต้นไปให้ใช้บังคับ มี 5 หมวด 35 มาตรา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการ ตราพระราชบัญญัติฉบับนี้

          โดยเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจนและโดยสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี (International Covenant on Civil and Political Rights: ICCPR)ทั้งนี้ เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีตลอดจนสุขอนามัยของประชาชนหรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิและเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ดังนั้น พระราชบัญญัติการชุมสาธารณะ พ.ศ.2558 สอดคล้องกับพันธะกรณีระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี

          สรุป คำตอบ ก. เป็นคำตอบที่ถูกต้องมากที่สุด

        

8. ข้อใดมิใช่อำนาจของผู้ควบคุมสถานการณ์ และผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ควบคุมสถานการณ์

         ก. จับผู้ซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมหรือผู้ซึ่งเข้าไปในพื้นที่ควบคุมโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
ดูแลการชุมนุมสาธารณะ

         ข. ค้น ยึด อายัด หรือรื้อถอนทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการชุมนุมสาธารณะนั้น กระทำการที่จำเป็นตามแผนหรือแนวทางการดูแลการชุมนุมสาธารณะนั้น

         ค.มีคำสั่งห้ามมิให้กระทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้มีการเลิกการชุมนุม

         ง. รายงานให้ศาลทราบกับประกาศกำหนดให้พื้นที่บริเวณที่มีการชุมนุมสาธารณะนั้น และปริมณฑลของพื้นที่นั้น ตามควรแก่กรณีเป็นพื้นที่ควบคุม

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 24 วรรคแรก บัญญัติว่า เมื่อพ้นระยะเวลาที่ประกาศให้  ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ควบคุม หากมีผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ควบคุมหรือเข้าไปในพื้นที่ควบคุมโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดซึ่งหน้า และให้ผู้ควบคุมสถานการณ์และผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ควบคุมสถานการณ์ดำเนินการให้มีการเลิกการชุมนุมสาธารณะตามคำสั่งศาล โดยให้ผู้ควบคุมสถานการณ์และผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ควบคุมสถานการณ์มีอำนาจ ดังต่อไปนี้ 

          (1). จับผู้ซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมหรือผู้ซึ่งเข้าไปในพื้นที่ควบคุมโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

          (2) ค้น ยึด อายัด หรือรื้อถอนทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการชุมนุมสาธารณะนั้น  

          (3) กระทำการที่จำเป็นตามแผนหรือแนวทางการดูแลการชุมนุมสาธารณะนั้น

         (4) มีคำสั่งห้ามมิให้กระทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้มีการเลิกการชุมนุม

ดังนั้น รายงานให้ศาลทราบกับประกาศกำหนดให้พื้นที่บริเวณที่มีการชุมนุมสาธารณะนั้น และปริมณฑลของพื้นที่นั้น ตามควรแก่กรณีเป็นพื้นที่ควบคุม มิใช่อำนาจของผู้ควบคุมสถานการณ์ และผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ควบคุมสถานการณ์ ตามมาตรา 24 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

         สรุป คำตอบ ง. เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

 

9. ผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมก่อนต้องระวางโทษเท่าใด

         ก. จำคุก 1 ปี

         ข. ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

         ค. จำคุก 1 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

         ง. ผิดทุกข้อ

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 28 บัญญัติว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 มาตรา 12 มาตรา 17 หรือมาตรา 18 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทถ้วน

          โดยมาตรา 10 กำหนดว่า ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง...

ดังนั้น ผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมก่อนต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว  

          สรุป คำตอบ ข. ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

 

10. ข้อใดกล่าวผิด

         ก. ผู้ชุมนุมต้องเลิกการชุมนุมสาธารณะภายใต้ระยะเวลาที่ผู้จัดการชุมนุม ได้แจ้งต่อผู้รับแจ้ง

         ข. หากผู้จัดการชุมนุมประสงค์จะให้มีการชุมนุมต่อไปให้แจ้งขอขยายระยะเวลาการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนสิ้นระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้ต่อผู้รับแจ้ง

         ค. ผู้ชุมนุมไม่เดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา 17.00 นาฬิกา – 06.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น

         ง. ผู้จัดการชุมนุมต้องไม่ปราศรัยหรือจัดกิจกรรมในการชุมนุมโดยใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลา 24.00 นาฬิกา ถึง เวลา 06.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติการชุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 16 ผู้ชุมนุมมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

          (๑) ไม่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุมหรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามเหตุอันควร

          (๒) ไม่ปิดบังหรืออำพรางตนโดยจงใจมิให้มีการระบุตัวบุคคลได้ถูกต้อง เว้นแต่เป็นการแต่งกายตามปกติประเพณี

(๓) ไม่พาอาวุธ ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน หรือสิ่งที่อาจนำมาใช้ได้อย่างอาวุธเข้าไปในที่ชุมนุมไม่ว่าจะได้รับอนุญาตให้มีสิ่งนั้นติดตัวหรือไม่

          (๔) ไม่บุกรุกหรือทำให้เสียหาย ทำลาย หรือทำด้วยประการใด ๆ ให้ใช้การไม่ได้ตามปกติซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น

(๕) ไม่ทำให้ผู้อื่นกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือเสรีภาพ

(๖) ไม่ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือผู้อื่น

(๗) ไม่ขัดขวางหรือกระทำการใด ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะในการคุ้มครองความสะดวกของประชาชนในการใช้ที่สาธารณะและการดูแลการชุมนุมสาธารณะนั้น

(๘) ไม่เดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

          (๙) ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

         ดังนั้น ผู้ชุมนุมไม่เดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา 17.00 นาฬิกา – 06.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น จึงกล่าวผิด เนื่องจากมาตรา 16 (8) บัญญัติห้ามผู้ชุมนุมเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว  

          สรุป คำตอบ ค. เป็นคำตอบที่กล่าวผิด