FAQ งานกำหนดสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่บุคคลที่อพยพเข้ามา ในราชอาณาจักรไทย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
22 เมษายน 2564

1. คนต่างด้าว หมายถึงใคร
- มาตรา 4 ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 “คนต่างด้าว” หมายความว่า บุคคลธรรมดา ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
2. คนต่างด้าวมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
คนต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยปัจจุบัน ไม่ว่าจะมีสัญชาติใด หากพิจารณาถึงสถานะตามกฎหมายที่ได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศไทย แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. ต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย
1.1 คนต่างด้าวที่อยู่ชั่วคราว (A Non-Resident) หมายถึง คนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เช่น นักท่องเที่ยว นักลงทุน แรงงานต่างด้าว เป็นต้น คนต่างด้าวประเภทนี้ต้องขอวีซ่าและ ขออยู่ต่อในราชอาณาจักร
1.2 คนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ถาวร (A Resident) หมายถึง ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ถาวร ซึ่ง มีสิทธิที่จะอยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นการถาวร โดยไม่ต้องยื่นขอเพื่อพำนักอยู่ต่อเป็นการชั่วคราวแต่ละปี
2. คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ได้แก่
2.1 คนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศและอาศัยอยู่เป็นเวลานาน โดยได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติและได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
2.2 กลุ่มผู้อพยพในศูนย์พักพิงผู้อพยพ และรวมถึงผู้หลบหนีเข้าเมือง ตามกฎหมายว่าด้วย[ตัวแบ่งการตัดข้อความ]คนเข้าเมือง
3. ทำไมต้องให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย
เนื่องจากประเทศไทย มีชนกลุ่มน้อยที่อพยพหลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายและอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมากไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้และรัฐบาลมีนโยบายผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราว บุคคลเหล่านี้ประสบปัญหาสถานะตามกฎหมายในการอาศัยอยู่ในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและการเข้าถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างเหมาะสม นำไปสู่ปัญหาความมั่นคง โดย ครม. มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 และวันที่ 7 ธันวาคม 2553 ตามยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหา ผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบรมว.มท. อาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยอนุมัติ ครม. จึงออกประกาศ มท.เรื่อง การให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่บุคคล
ที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และอาศัยอยู่มานานตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 26 กันยายน 2555
4. คนต่างด้าวกลุ่มชนกลุ่มน้อย หากประสงค์ขอมีสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายดำเนินการอย่างไร
คนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศและอาศัยอยู่เป็นเวลานาน โดยได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติและได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ที่มีคุณสมบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่บุคคลที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และอาศัยอยู่มานานตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 26 กันยายน 2555 มี 4 ประเภท ดังนี้
1. ประเภทที่อพยพเข้ามาในประเทศและอาศัยอยู่เป็นเวลานาน กลุ่มเป้าหมายเฉพาะชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติไว้เดิมรับรองสถานะให้อาศัยอยู่ถาวร ในประเทศไทย รวม 14 กลุ่ม เท่านั้น คือ 1. ชาวเขา 9 เผ่า 2. บุคคลบนพื้นที่สูง/ชุมชนพื้นที่สูง (ที่อพยพเข้ามาก่อนและหลัง 3 ตุลาคม 2528) 3. อดีตทหารจีนคณะชาติ 4. จีนฮ่ออพยพพลเรือน 5. จีนฮ่ออิสระ 6. ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า 7. ผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่า 8. ชาวเวียดนามอพยพ 9. ชาวลาวอพยพ 10. เนปาลอพยพ 11. อดีตโจรจีนคอมมิวนิสต์ มาลายา 12. ไทยลื้อ 13. ม้งถ้ำกระบอกที่ทําประโยชน์ 14. ผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวกัมพูชา (ทั้งนี้ รวมถึงบุตรของบุคคลดังกล่าวซึ่งได้รับการสํารวจจัดทําทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตนตามยุทธศาสตร์ฯ เฉพาะผู้ที่ได้รับการสํารวจในกลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษา ในช่วงปี 2548 - 2552 ซึ่งยังไม่จบการศึกษาในระดับ อุดมศึกษา เท่านั้น)
2. ประเภทกลุ่มเด็กและบุคคลทั้งที่กำลังเรียนอยู่ในสถานศึกษาและจบการศึกษาแล้วแต่ไม่มีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย เฉพาะที่ผู้ที่ได้รับการสํารวจจัดทําทะเบียนชนกลุ่มน้อย/ชาติพันธุ์ ตั้งแต่อดีตจนถึงการสํารวจจัดทําทะเบียน ครั้งสุดท้าย ปี 2542 (ชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ 14 กลุ่ม) และที่สํารวจเพิ่มเติมตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหา สถานะและสิทธิของบุคคล (บุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษา) ซึ่งสํารวจในห้วงปี 2548 – 2552 ซึ่งจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจนถึงวันที่ 18 มกราคม 2548 เท่านั้น
3. ประเภทบุคคลไร้รากเหง้า เฉพาะผู้ที่ได้รับการสํารวจจัดทําทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตนแล้ว ภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ในห้วงปี 2550 - 2552 ครอบคลุมเฉพาะผู้ที่ได้รับการสํารวจจัดทําทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตนตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหา สถานะและสิทธิของบุคคล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มคนไร้รากเหง้าที่อยู่ในสถานสงเคราะห์) ซึ่งได้รับการสํารวจในระหว่างปี 2550 - 2552 เท่านั้น
4. ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศ กลุ่มเป้าหมายซึ่งได้รับการสํารวจจัดทําทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตนไว้แล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึง การสํารวจจัดทําทะเบียนประวัติครั้งสุดท้าย พ.ศ. 2542 และที่ได้รับการการสํารวจเพิ่มเติมตามยุทธศาสตร์การ จัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548
โดยมีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้
1. ผู้ที่มีคุณสมบัติยื่นคำขอ ณ ที่ทำการปกครองอำเภอ ที่มีภูมิลำเนา
2. อำเภอตรวจสอบคุณสมบัติ ส่งตัวผู้ขอไปตรวจประวัติอาชญากรรม ณ สถานีตำรวจพื้นที่ รวบรวมเอกสาร เสนอนายอำเภอเพื่อพิจารณาลงนามและรับรองคุณสมบัติ ก่อนส่งให้จังหวัดดำเนินการต่อไป
3. จังหวัดตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสาร ส่งตรวจพฤติการณ์ด้านความมั่นคงกับ ป.ป.ส. (ภาค) ตำรวจภูธรจังหวัด และฝ่ายความมั่นคงจังหวัด และรวบรวมเอกสารเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาให้สัญชาติไทยและให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่ชนกลุ่มน้อยระดับจังหวัดและเสนอผลสรุป ให้กระทรวงมหาดไทย
4. กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารส่งตรวจสอบพฤติการณ์ด้านความมั่นคงกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), กองบัญชาการตำรวจปราบปราม ยาเสพติด (บช.ปส.), กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.), สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวบรวมเอกสารเสนอคณะกรรมการพิจารณาให้สัญชาติไทยและ ให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่ชนกลุ่มน้อย และเสนอผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายกรัฐมนตรีเพื่อใช้ดุลพินิจพิจารณา
5. แจ้งจังหวัด เพื่อแจ้งอำเภอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ยื่นคำขอทราบ เพื่อไปดำเนินการติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ เพื่อขอใบถิ่นที่อยู่ ติดต่อกับสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และติดต่อสำนักทะเบียนเพื่อเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร
5. คนต่างด้าวทั่วไป (นอกเหนือจากชนกลุ่มน้อย) หากประสงค์ขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ดำเนินการอย่างไร
1. ยื่นคำขอ ณ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีเงื่อนไขการถือหนังสือเดินทางที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (A Non-Immigrant Visa) และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปีมาแล้ว รวมเวลาในการพำนักอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3 ปี ประเภทของการยื่นคำขอ ได้แก่ เข้ามาเพื่อการลงทุน เข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาเพื่อทำงาน กรณีพิเศษเฉพาะราย และเข้ามาเพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรม
2. ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการและได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี
3. ดำเนินการติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่เพื่อขอใบถิ่นที่อยู่ ติดต่อกับสถานีตำรวจ ในพื้นที่ เพื่อขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และติดต่อสำนักทะเบียนเพื่อเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร
6. ค่าธรรมเนียมในการดำเนินขอมีสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย และการขอใบสำคัญ
ถิ่นที่อยู่ ต้องเสียค่าธรรมเนียมจำนวนเท่าใด
ค่าธรรมเนียมในการดำเนินขอมีสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อย่างใด สำหรับการขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ต้องเสียค่าธรรมเนียม จำนวน 500 บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน) ตามประกาศ มท. เรื่อง การยกเว้นและการลดหย่อนค่าธรรมเนียมให้แก่คนต่างด้าว ที่ได้รับการกําหนดสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย ของบุคคลที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556
7. ชนกลุ่มน้อยผู้มีสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้รับสิทธิอย่างไรบ้าง
- มีสิทธิขอใบถิ่นที่อยู่ถาวร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และใบสำคัญประจำตัว คนต่างด้าว ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493
- สามารถออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมโดยไม่ต้องขออนุญาต
8. ผู้ถือใบถิ่นที่อยู่ถาวร ได้รับสิทธิอย่างไรบ้าง
1. มีสิทธิที่จะอยู่ในประเทศไทยเป็นการถาวร โดยไม่ต้องคอยยื่นคำขอเพื่อพำนักอยู่ต่อเป็นการชั่วคราวในแต่ละปีอีก
2. มีสิทธิได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับ คนต่างด้าว
3. มีสิทธิที่จะได้รับการบันทึกชื่อเข้าอยู่ในทะเบียนบ้าน (แบบ ท.ร.14) เช่นเดียวกับคนสัญชาติไทยด้วย
4. มีสิทธิตามที่กฎหมายต่างๆ ได้กำหนดไว้ เช่น ได้สิทธิเกี่ยวกับสัญชาติของบุตรที่เกิดในประเทศไทยเพราะในกรณีที่บิดาและมารดาเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร เมื่อมีบุตรเกิดในประเทศไทย บุตรก็จะได้สัญชาติไทย (มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535)
5. มีสิทธิซื้อห้องชุดในอาคารชุดที่เรียกกันเป็นภาษาอังกฤษว่า คอนโดมิเนียมโดยไม่ต้องโอนเงินจากต่างประเทศเข้ามาซื้อ เพราะถ้าหากไม่ใช่เป็นคนมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร จะต้องโอนเงินจากต่างประเทศ เข้ามา จึงจะมีสิทธิซื้อได้ (มาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534)
6. มีสิทธิยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยได้
7. สามารถขอเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของประเทศไทยเพื่อใช้สำหรับเดินทางไปต่างประเทศ ได้ด้วย เพราะบางในกรณีคนต่างด้าวผู้ที่มีถิ่นที่อยู่อาจจะขอหนังสือเดินทางจากสถานทูตหรือสถานกงสุลที่ ตนมีสัญชาติ ไม่ได้ด้วยเหตุผลบางประการ ดังนั้น เมื่อมีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงจำเป็น ต้องไปขอเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเพื่อสำหรับใช้เดินทางแทนหนังสือเดินทาง
8. ในกรณีที่จะทำงานเป็นกรรมการในบริษัทมหาชน ก็ยังมีโอกาสดีกว่าคนอยู่ชั่วคราว เพราะในกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัดได้กำหนดจำนวนและคุณสมบัติของกรรมการบริษัทด้วยว่า ต้องมีกรรมการอย่างน้อย 5 คน และกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (มาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ. 2535) (สุภัทร์ สกลไชย 2544 : 51)