คณะรัฐมนตรีเห็นชอบปรับลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์และผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หากมีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือเป็นผู้เมาสุรา

29 มีนาคม 2560

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า กระทรวงคมนาคมขอถอนเรื่องกฎกระทรวงว่าด้วยการออกใบอนุญาตขับขี่ กลับไปพิจารณาใหม่ ในประเด็นที่กำหนดให้ผู้ขออนุญาตออกใบขับขี่ต้องผ่านการอบรม 15 ชั่วโมง จากโรงเรียนกรมการขนส่งทางบก 5 แห่งในพื้นที่ 5 จังหวัด และสำนักงานขนส่งจังหวัด หรือโรงเรียนสอนขับรถของภาคเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เนื่องจากยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ด้านพันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายความปลอดภัยบนท้องถนน โดยปรับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสำหรับผู้ขับขี่ จากเดิมกำหนดให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ถือว่าเมาสุรา โดยแก้ไขเป็นกำหนดให้กรณีผู้ขับขี่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ และกรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือมีใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา ส่วนบุคคลอื่นกำหนดให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือว่าเมาสุราตามเดิม

 

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์