การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้ (30 มี.ค.2560) โดยในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่....) พ.ศ.... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 และ 3 โดยพลเอก สกลธ์ สัจจานิตย์ ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า กรรมาธิการฯ ได้พิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว ด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และพิจารณาบนพื้นฐานของข้อกฎหมาย ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นที่จะส่งผลกระทบต่อการจัดการระบบปิโตรเลียมและผลประโยชน์ทางพลังงานของชาติ และได้เสนอประเด็นแก้ไขต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว พร้อมชี้แจงย้ำว่าข้อบัญญัติในมาตรา 10/1 กำหนดให้ตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เพื่อรองรับระบบการบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียมรูปแบบแบ่งปันผลผลิตและรูปแบบการจ้างบริการ ซึ่งเป็นแผนระยะยาว และจะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ก่อน ขณะเดียวกันยอมรับว่า กรมพลังงานทหาร ถือเป็น 1 ใน 3 หน่วยงานหลัก ที่มีบุคลากรในการขับเคลื่อนบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ

ทั้งนี้ สมาชิก สนช. ได้อภิปรายในมาตรา 10/1 ที่กรรมาธิการเพิ่มเติมความขึ้นใหม่อย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เพื่อรองรับระบบแบ่งปันผลผลิตและการจ้างบริการ แต่เห็นว่ายังขาดความชัดเจนในรายละเอียด ทั้งกรอบเวลาการจัดตั้ง วัตถุประสงค์ และองค์ประกอบ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย กรรมาธิการฯ จึงยินยอมตัดมาตรา 10/1 ออก ตามข้อห่วงใยของสมาชิกโดยให้ตั้งเป็นข้อสังเกตแทน จากนั้นหลังผ่านความเห็นชอบวาระ 2 แล้ว ได้พิจารณาต่อในวาระ 3 และท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติผ่านความเห็นชอบวาระ 3 ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายด้วยคะแนน 227 ต่อ 1 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์