การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้ (20 เม.ย.) ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.... ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้สอดคล้องร่างพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ โดยได้จำแนกการปฏิรูปทั้งหมด 11 ด้าน โดยขั้นตอนการดำเนินการต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ และมีคณะกรรมการย่อยพิจารณาแผนการปฏิรูปด้านต่างๆ ซึ่งแผนการปฏิรูปสามารถปรับปรุงแก้ไขได้เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติ และไม่ยุ่งยากซับซ้อนเพราะไม่ต้องนำเสนอต่อรัฐสภา แต่นำเสนอคณะรัฐมนตรีก็มีผลบังคับใช้ พร้อมยืนยันว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้รับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องแล้วและวิเคราะห์ผลกระทบเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่สมาชิก สนช. ส่วนใหญ่สนับสนุนร่างกฎหมายนี้ พร้อมมีข้อสังเกตว่าหลังจากปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติไปแล้ว 20 ปี ควรให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันยังแนะให้เพิ่มแผนการปฏิรูปการป้องกันและปราบปราบการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมถึงด้านศาสนาและด้านบูรณาการความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศด้วย

ด้าน พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า พร้อมรับข้อสังเกตไปพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องการบูรณาการอยู่แล้ว ส่วนการบูรณาการในขั้นต้นของการดำเนินการปฏิรูปจะให้ประธานแต่ละด้านมาประชุมร่วมกันและให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมาร่วมประชุมด้วย เพื่อให้การปฏิรูปสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้นำข้อมูลต่างๆ ทั้งจาก คสช. สปท. และ สนช.มาบูรณาการเช่นกัน

จากนั้น ที่ประชุมมีเห็นชอบรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 186 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งกรรมาธิการวิสามัญเจำนวน 26 คน พิจารณาแปรญัตติภายใน 7 วัน มีกรอบเวลาการทำงาน 45 วัน

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์