มติสนช.201:0เสียงเห็นชอบร่างกม.ลูกว่าด้วยกกต.

21 เมษายน 2560

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบรับหลัการวาระแรกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ....ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 201:0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 31 คน กำหนดแปรญัตติใน 7 วัน และมีระยะเวลาดำเนินการ 45 วัน 

ขณะที่ การอภิปรายของสมาชิก สนช. ส่วนใหญ่ เห็นด้วยในหลักการ เพราะทำให้เพิ่มบทบาท กกต. ในการปราบปรามการทุจริตเลือกตั้งอย่างจริงจัง มีคุณสมบัติ กรรมการ กกต.ที่เข้มงวดมากขึ้น แต่ก็ยังมีความไม่ชัดเจนในประเด็น ยุบ กกต.จังหวัด และให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่ง สมาชิก สนช. มีแนวทางที่ต่างกัน เช่น ให้ กกต.จังหวัดมีอยู่ต่อ แต่ทำหน้าที่ร่วมกับ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง หรือ ให้มี กกต.จังหวัดเช่นเดิม และปรับบทบาทให้ลดลง

 

สนช.ให้ความเห็นชอบสนธิสัญญามาร์ราเคช

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติให้ความเห็นชอบสนธิสัญญามาร์ราเคช เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงงานที่มีการโฆษณาแล้ว สำหรับคนตาบอด คนพิการทางการเห็นหรือคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ ด้วยคะแนน 198 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 2 เสียงโดย พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงประโยชน์ของการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญามาร์ราเคช ว่า ประเทศไทยจะมีภาพลักษณ์ที่ดีในการสนับสนุนให้คนพิการทุกประเภท ได้รับรู้ เรียนรู้ เป็นช่องทางให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากงานที่เป็นลิขสิทธิ์ สามารถนำเอกสารอันเป็นลิขสิทธิ์ มาทำซ้ำ ดัดแปลง เช่น นำมาทำเป็นอักษรเบล หรือหนังสือเสียง เพื่อให้คนพิการทางการเห็นได้รับรู้และเข้าใจเท่าเทียมกับคนอื่น

ด้านสมาชิก สนช. ให้ความเห็นว่า สนธิสัญญามาร์ราเคช ถือเป็นสนธิสัญญาที่มีความสำคัญ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมากหากเข้าเป็นภาคี คนที่ขาดโอกาส จะเข้าถึงสื่อสิ่งพิมพ์ได้สะดวก ได้รับความรู้ ข้อมูลที่มีลักษณะอ่านง่ายและเข้าถึงได้ง่าย

สำนักข่าว INN