'อลงกรณ์'ชี้งบปี61ตอบโจทย์ปฏิรูปสู่4.0
12 มิถุนายน 2560
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่ 1 เปิดเผยว่า ร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบวาระที่ 1 ของ สนช. ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการจัดทำงบประมาณครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ตามแผนการปฏิรูประบบงบประมาณและการคลังซึ่ง จะส่งผลดีต่อการปฏิรูปประเทศสู่ไทยแลนด์4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติโดยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและระบบงบประมาณเป็นแบบ 3 มิติ ได้แก่ มิติหน้าที่ (functional base)ตามภารกิจของหน่วยงานรัฐ มิติวาระปฏิรูป (agenda base)ตอบโจทย์ 37 วาระปฏิรูป 11 ด้านอย่างชัดเจนง่ายต่อการบริหารและประเมินผลและมิติพื้นที่ (area base)สู่จังหวัดกลุ่มจังหวัดและท้องถิ่นโดยตรง ส่งผลต่อการพัฒนาอย่างเท่าเทียมทุกพื้นที่ทำให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นรูปธรรมชัดเจน
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับลดรายจ่ายประจำเหลือ 74% สามารถเพิ่มงบลงทุนได้ถึง 23% ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีขึ้นในรอบหลายปีพร้อมกับเพิ่มการลงทุนประเทศด้วยการใช้ระบบเอกชนร่วมลงทุนแบบพีพีพี. และกองทุนไทยแลนด์ฟันด์ทำให้ดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้รวดเร็วขึ้น โดยไม่เป็นภาระงบประมาณและหนี้สาธารณะซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 42% ของจีดีพี ถือว่าอยู่ในกรอบวินัยการคลังที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกับตัวเลขทุนสำรองเงินตราเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และจะเติบโตสูงกว่าอัตราขยายตัวของ จีดีพี. เฉลี่ย 10 ปี เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความก้าวหน้าของการปฏิรูปประเทศใน 3 ปีที่ผ่านมาทำให้ประเทศไทยแข็งแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องมุ่งเน้นอีกด้านคือประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณอย่างโปร่งใสมีธรรมาภิบาลป้องกันไม่ให้หน่วยงานรัฐใช้วิธิพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยไม่มีเหตุอันควรพร้อมกับส่งเสริมบทบาทของประชาชนเจ้าของภาษีในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารภาครัฐที่เกี่ยวกับการประมูลจัดซื้อจัดจ้างจะเป็นการอุดช่องโหว่การทุจริตของงบประมาณแผ่นดินได้เป็นอย่างดี
สำนักข่าว INN