ปชช.ต่อแถวรอกราบพระบรมศพแน่น-รวม98วันกว่า4.1ล.
9 กุมภาพันธ์ 2560
9 กุมภาพันธ์ 2560
ประชาชนทยอยเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เช้ามืด -มท.นำชาวเชียงราย นครพนมและอุทัยธานี1,500 คน ขณะที่ สำนักงานพระราชวัง สรุปยอดรวม 98 วัน กว่า 4.1 ล้านคน - ร.10 เสด็จฯเปิดนิทรรศการเย็นศิระเพราพระบริบาล 9 ก.พ.
บรรยากาศที่พระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวงในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีพสกนิกรชาวไทยจำนวนมากทยอยเดินทางมานั่งรอต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยในส่วนของประชาชน 3 จังหวัดที่กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกมาในวันนี้เป็นประชาชนจาก จาก 3 จังหวัด จำนวน 1,500 คน ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย 700คน นครพนม 500 คน และ อุทัยธานี 300 คน โดยทั้งหมด ซึ่งเดินทางมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้าและได้นั่งรอต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพชุดแรกตั้งแต่เวลา 05.00 น. ผ่านทางประตูวิเศษไชยศรี จากนั้นในเวลา 08.30 น. ให้เดินเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลชุดแต่งกาย และจัดแถวให้เดินเข้าไปด้วยความเป็นเรียบร้อย
ด้าน มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบยังเป็นอย่างเข้มงวดโดยประชาชนที่จะเข้ามาในพื้นที่จะต้องเดินผ่านจุดคัดกรอง ผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ ผ่านการตรวจกระเป๋าสัมภาระป้องกันการนำอาวุธสิ่งของมีคมเข้ามาในพื้นที่
ทั้งนี้ช่วงเย็นวันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการเย็นศิระเพราพระบริบาล บริเวณเต็นท์สนามหลวงฝั่งทิศเหนือ และจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมนิทรรศการตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.
ขณะที่จุดบริการประชาชน ร่วมด้วยช่วยกัน บริเวณประตูทางเข้าถนนหน้าพระธาตุ ได้มีเจ้าหน้าที่มาคอยประจำการให้ข้อมูลข่าวสารรับแจ้งเหตุ ตลอดจนประสานงานเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
ด้าน สำนักพระราชวัง ได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคม พระบรมศพ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง ในเวลา 21.10 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 36,489 คน รวม 98 วัน มี 4,197,903 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,929,876.75 บาท รวม 98 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 353,691,491.09 บาท
สำนักข่าว INN