พลตรี ธิรา แดหวา ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า การขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับ ประกอบด้วย ระดับผู้บริหาร หรือนายกรัฐมนตรี ระดับผู้แทนของรัฐบาล หรือคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข และคณะประสานงานระดับพื้นที่ เป้าหมายจากการใช้การรุนแรงเปลี่ยนเป็นสันติวิธี กล่าวคือทุกปัญหาต้องยุติด้วยการพูดคุย โดยเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการของคณะประสานงานระดับพื้นที่ เพื่อแจ้งความคืบหน้าของการพูดคุยในระดับผู้แทนของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ได้ทำเวิร์คช็อปในเรื่องข้อคิดเห็นของคณะประสานงานระดับพื้นที่ 8 กลุ่ม 117 คน ในจำนวนนี้เป็นภาคประชาสังคม 85 คน เพื่อรวมรวบข้อคิดเห็นทุกด้าน อาทิ การศึกษา เศรษฐกิจ เสนอให้พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข นำไปเป็นเครื่องมือยืนยันว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอะไร ซึ่งเอื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุข

          ล่าสุด การขับเคลื่อนการพูดคุยเพื่อสันติสุข เมื่อเดือนมกราคม 2563 ได้พูดคุยกับผู้แทนของ BRN เป็นการพูดคุยครั้งแรกเพื่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน และจะมีการคุยกันครั้งต่อไปในช่วงต้นเดือนหน้า (มี.ค. 63) ส่วนตัวมองว่ามีคืบหน้าของการพูดคุยเพื่อสันติสุข

          พลตรี ธิรา แดหวา กล่าวเพิ่มเติมว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีภารกิจหลัก 3 ประการ คือ   การทำพื้นที่ให้ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัย และการสร้างความเข้าใจ

         ปัจจุบันนี้ผู้ก่อเหตุรุนแรงน่าจะมีจำนวนอยู่ที่เลข 2 หลักแล้ว จะมีที่เป็นพวกขบวนการจริง ๆ ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นพวกภัยแทรกซ้อน ซึ่งกลุ่มส่วนนี้จะต้องพยายามยับยั้ง ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ส่วนงานสร้างความเข้าใจ  ศูนย์สันติวิธีจะเป็นหลักในการสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน กว่า 2 ล้านคนในพื้นที่ ให้เข้าใจว่ารัฐบาลมีนโยบาย มีแนวทางในการสร้างสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไร

          ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 มีนโยบายเร่งด่วนอยู่ 5 ประการ ซึ่งในข้อที่ 5 คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่วนงานด้านการพัฒนาซึ่งสอดคล้องกับ ศอ.บต. ที่กำลังขับเคลื่อนงานการพัฒนา ให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกัน ย้ำประชาชนจะมีความสุขได้ต้องไม่มีเหตุการณ์ ไม่มีการใช้ความรุนแรง มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ร่วมใจกันพัฒนาตามยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ผลลัพธ์สุดท้ายคือรู้รักและสามัคคี

*สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 19 ก.พ. 2563