ทำความรู้จัก ‼️ หมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (หมู่บ้าน อพป.)

5 พฤษภาคม 2565


5 พฤษภาคม 2565

ความเป็นมา
 หมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (หมู่บ้าน อพป.) กำเนิดมาจากโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแห่งชาติ (อพป.) เป็นโครงการสำคัญระดับชาติมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและสร้างความมั่นคงของหมู่บ้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การปกครอง และการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการให้ดำเนินโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแห่งชาติ (อพป.) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2517 และเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา และได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2522 เป็นต้นมา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ปัจจุบันมีหมู่บ้าน อพป. ใน 76 จังหวัด 730 อำเภอ 3,486 ตำบล 14,528 หมู่บ้าน (ข้อมูล ณ วันที่  29 ธันวาคม 2560)

วัตถุประสงค์ของโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแห่งชาติ (อพป. มี 3 ประการ)  
      ประการที่ 1 เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของหมู่บ้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การปกครอง และการป้องกันตนเองตามสภาพของการรวมตัวของราษฎรในหมู่บ้าน
      ประการที่ 2 พัฒนาประชาชนให้เกิดความตื่นตัว มีความรับผิดชอบและร่วมมือในการ
บริหารงานการปกครองหมู่บ้านและร่วมกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ในหมู่บ้านของตน
      ประการที่ 3 ผนึกกำลังประชาชนให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่จะรับผิดชอบ       ในการต่อต้านการแทรกซึม บ่อนทำลาย ด้วยตัวของตัวเองเป็นหลัก โดยอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐให้น้อยที่สุด

 แนวทางการดำเนินงานของโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแห่งชาติ (อพป.)  มี 3 ภารกิจ ดังนี้
      ภารกิจที่ 1 งานพัฒนาบริการ (พบก.) โดยการจัดให้มีการฝึกอบรมราษฎรให้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการพัฒนาและบริการในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาอาชีพการเกษตร การฝึกอาชีพเสริมและการบริการสังคมในหมู่บ้าน พร้อมผนึกกำลังเกี่ยวกับการพัฒนาและบริการในทุกสาขาของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ลงในหมู่บ้าน
     ภารกิจที่ 2 งานพัฒนาบริหารหมู่บ้าน อพป. (พบม.) โดยการจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการกลางหมู่บ้าน เพื่อฝึกให้สามารถปกครองและการบริหารหมู่บ้านด้วยตนเอง ตาม พ.ร.บ. จัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522 ได้อย่างจริงจัง ตลอดจนกำกับดูแล การปฏิบัติงานของคณะกรรมการกลางหมู่บ้าน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     ภารกิจที่ 3 งานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (รปภ.) โดยการจัดให้มีการฝึกอบรมราษฎร   ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน ให้ราษฎรรู้และสามารถป้องกันและต่อต้านการก่อการร้าย       ด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง การจัดตั้งกองกำลังราษฎรประจำหมู่บ้าน และการติดอาวุธให้ตามความจำเป็น พร้อมทั้งกำหนดแผนการรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านให้สอดคล้องกับการใช้กำลังประจำถิ่นระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด โดยมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เรียกโดยย่อว่า (ชรบ.) ที่จัดตั้งตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการช่วยเหลือเจ้าพนักงานของหน่วยกำลังคุ้มครองและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน พ.ศ. 2551 เป็นหน่วยกำลังหลักในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน

 ขั้นตอนการจัดตั้ง หมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.)
      กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดขั้นตอนและวิธีปฏิบัติเรื่องการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ไว้ 2 ขั้นตอน ดังนี้ 
      4.1 ขั้นตอนที่ 1 วิธีปฏิบัติในการพิจารณากำหนดหมู่บ้านเป้าหมาย
        1) กอ.รมน.จังหวัด แจ้งอำเภอคัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมาย
       2) อำเภอประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อร่วมพิจารณากำหนดหมู่บ้านเป้าหมาย
       3) กอ.รมน.จังหวัด ดำเนินการคัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมาย แจ้ง กอ.รมน.ภาค
       4) กอ.รมน.ภาค ดำเนินการตรวจสอบหมู่บ้านเป้าหมายให้ถูกต้อง และส่งให้ส่วนกิจการ
พลเรือน สำนักเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (สกร.กอ.รมน.)
       5) สกร.กอ.รมน./ศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง กอ.รมน. (ศอพป.) ดำเนินการ
คัดเลือกหมู่บ้านและส่งให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อประกาศจัดตั้งเป็นหมู่บ้าน อพป. ต่อไป
     4.2 ขั้นตอนที่ 2 วิธีปฏิบัติในการตรวจสอบความถูกต้อง
       1) กระทรวงมหาดไทยแจ้งจังหวัดให้แจ้งอำเภอตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อหมู่บ้าน เลขที่ของหมู่บ้าน ตำบลที่ถูกต้อง
       2) อำเภอแจ้งยืนยันหรือแก้ไขให้จังหวัด
       3) จังหวัดแจ้งยืนยันหรือแก้ไขให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อประกาศจัดตั้งเป็นหมู่บ้าน อพป. ต่อไป


ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://multi.dopa.go.th/isab/news/cate2/view471
หรือ ส่วนกิจการมวลชน สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง