รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบมีกลุ่มคนที่มีประวัติการเคลื่อนไหวในลักษณะเป็นแกนนำ ยุยงปลุกระดม เข้ามาในพื้นที่บริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกาย
27 กุมภาพันธ์ 2560
พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่า พบกลุ่มคนที่มีประวัติการเคลื่อนไหวในลักษณะแกนนำ ชักชวนปลุกระดมและบางคนอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เข้ามาในพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย โดยจากการข่าวพบว่า มีจำนวนประมาณ 30 คน จึงสั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีและออกหมายเรียก เนื่องจากถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ประกาศให้ โดยรอบวัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ นอกจากนี้ยังวางมาตรการเฝ้าระวังเหตุความวุ่นวายและป้องกันมือที่สามใช้โอกาสในการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย และไม่กังวลว่า การตรวจค้นวัดพระธรรมกายจะถูกนำไปขยายผล จนทำให้มีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกแซง เพราะการประกาศใช้ มาตรา 44 เพื่อต้องการบังคับใช้กฏหมาย แม้ว่ารัฐบาลจะเป็นผู้ออกคำสั่ง แต่เป็นคนละประเด็นกัน จึงอยากให้ประชาชน มีความเข้าใจ พร้อมแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ที่เรียกร้องให้รัฐบาล ยกเลิกคำสั่ง คสช. มาตรา 44 แต่ส่วนตัวไม่ต้องการให้นำประเด็นนี้ ไปขยายความ เพื่อนำไปสู่การต่อต้านการใช้ มาตรา 44
รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังยืนยันความจำเป็นที่ต้องคัดกรองและตรวจสอบหลักฐานใบสุทธิของพระสงฆ์ที่มารวมตัวกันบริเวณตลาดกลางคลองหลวง เนื่องจากพบว่า มีพระสงฆ์มารวมตัวกันประมาณ 200 รูป ซึ่งไม่ใช่พระสงฆ์ที่จำวัดอยู่ที่วัดพระธรรมกายและพบว่า พระบางรูปไม่ได้พกพาใบสุทธิมาด้วย ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ออกประกาศ ห้ามพระสงฆ์เข้าร่วมการชุมนุม เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องคัดกรอง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังเปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ จะมีการนำกำลังตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 เข้าสลับสับเปลี่ยน เพื่อทดแทนกำลังตำรวจภูธรภาค 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่มาในช่วงนี้และมีความเหนื่อยล้า
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์