ภาพสไลด์กิจกรรม


อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมประชุมขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) จังหวัดภาคใต้

9 มีนาคม 2565

อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมประชุมขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) จังหวัดภาคใต้

วันที่ 3 มี.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดและมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับพื้นที่ โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และนายอำเภอ ร่วมรับฟัง และถ่ายทอดสดการประชุมผ่านระบบ DOPA Channel ไปยังทุกจังหวัด/อำเภอทั่วประเทศ โดยมี ปลัดอำเภอ พัฒนาการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมรับฟัง

ในการนี้ นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ชี้แจงข้อราชการสำคัญ ในประเด็นเกี่ยวข้องกับกรมการปกครอง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

ขอให้นายอำเภอบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยใช้ข้อมูลจาก TPMAP และข้อมูลที่ได้เก็บเพิ่มเติมจากระบบ Thai QM มาเป็นฐานในการเลือก “เมนูแก้จน” ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ขอเน้นย้ำให้นายอำเภอ ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการบริหารเงินทุนหมุนเวียน ตามโครงการเศรษฐกิจชุมชนขององค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลตำบล ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อส่งเสริม ให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกร หรือกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มเหล่านี้ สามารถเสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชุมชนเพื่อขอกู้เงินแบบไม่มีดอกเบี้ยจากเงินทุนหมุนเวียนนี้ได้

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มกลับมาระบาดในวงกว้างอีกครั้ง ประกอบกับพื้นที่ภาคใต้มีจังหวัดที่เป็นพื้นที่ชายแดนซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้กำกับดูแลพื้นที่ อย่างใกล้ชิด มิให้มีการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ