แบบทดสอบความรู้การปฏิบัติงานให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย และการอนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมของชนกลุ่มน้อย

21 เมษายน 2564

๑. ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้อง

ก. ปัจจุบันนี้คณะรัฐมนตรีกำหนดหลักเกณฑ์ให้บุตรของชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในไทยได้สัญชาติไทย

ข. บุคคลที่ได้รับการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนประเภทบุคคล “ไร้รากเหง้า” ทุกคนมีสิทธิขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙

ค. บุคคลที่ได้รับการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนประเภท “คนไร้สัญชาติ”

มีสิทธิขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙

ง. บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว มีสิทธิขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙

เฉลยคำตอบ

ข้อ ก เพราะ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559 และในข้อ 2 ของประกาศกระทรวงมหาดไทย   เรื่อง การสั่งให้คนที่เกิดในราชอาณาจักรและไม่ได้รับสัญชาติไทย โดยมีบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าวได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป และการให้สัญชาติไทยเป็นการเฉพาะราย ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560

 

๒. ข้อใดต่อไปนี้ กล่าว ผิด

ก. กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองที่อยู่ในประเทศไทย

ข. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบ

ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙

ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการกำหนดจำนวนคนต่างด้าวกลุ่มใดบ้าง จะมีสิทธิขออนุญาต

ออกนอกเขตและสิทธิในการขอสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย

เฉลยคำตอบ

ข้อ ง เพราะการจะให้ต่างด้าวกลุ่มใดมีสิทธิอาศัยยู่ในราชอาณาจักรต้องเป็นไปตามมาตรา 5 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522  

 

๓. ข้อใดคือความหมายของ “คนไร้รัฐไร้สัญชาติ” ที่ถูกต้อง

ก. บุคคลธรรมดาที่ประเทศเมียนมาเคยรับรองว่าเป็นพลเมืองแต่ได้สละสัญชาตินั้นแล้ว จึงทำให้มีสถานะ

เป็นคนไร้รัฐไร้สัญชาติ

ข. บุคคลธรรมดาที่ประเทศลาวเคยรับรองว่าเป็นพลเมืองแต่ได้ถูกถอนสัญชาติ จึงทำให้มีสถานะ เป็นคนไร้รัฐไร้สัญชาติ

ค. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีหลักฐานแสดงว่ามีประเทศใดรับรองผู้นั้นว่าเป็นราษฎรหรือพลเมืองของประเทศนั้น

ง. บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบและอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ และไม่สามารถเดินทางกลับได้

เฉลยคำตอบ

          ข้อ ค ระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนประวัติสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน พ.ศ. 2562 ข้อ 4 (3) กล่าวคือ “คนไร้รัฐไร้สัญชาติ”หมายความว่า บุคคลธรรมดาที่ไม่มีหลักฐานแสดงว่ามีประเทศใดรับรองผู้นั้นว่าเป็นราษฎรหรือพลเมืองของประเทศนั้น หรือเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติของประเทศใด

 

๔. ข้อใดคือความหมายของ “บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน” ที่ถูกต้อง

ก. บุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร และมีรายการในทะเบียนบ้าน ท.ร.๑๓

ข. คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่รัฐบาลมีนโยบายให้สำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติเพื่อการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติ หรือเพื่อการอื่นใด

ค. บุคคลซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรและอพยพเข้ามาอยู่ในไทยมานานแต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย

ง. คนต่างด้าวที่ได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติและอพยพเข้ามาในไทยก่อนปี พ.ศ. ๒๕๔๘

เฉลยคำตอบ

      ข้อ ข นิยามตามข้อ 4 ของระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนประวัติสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน พ.ศ. 2562

 

๕. ข้อใดต่อไปนี้กล่าว ถูกต้อง เกี่ยวกับ “คนไร้รากเหง้า”

ก. หากนายอำเภอมีความเห็นว่าไม่สามารถยืนยันสถานะการเกิดและสัญชาติของเด็กได้ ให้แจ้งนายทะเบียนอำเภอ

ข. ผู้ซึ่งได้รับการจัดทําทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตน ถ้ามีหลักฐานแสดงว่าได้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักร

อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑๕ ปี และมีคุณสมบัติอื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกําหนด

ให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคําร้องขอมีสัญชาติไทยได้

ค. หากนายอำเภอมีความเห็นว่าไม่สามารถยืนยันสถานะการเกิดและสัญชาติของเด็กได้ และเด็กมีอายุครบ ๗ ปีแล้ว ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นออกบัตรประจำตัวให้แทน

ง. การขอพิสูจน์ความเป็นคนไร้รากเหง้าจะต้องเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงอายุไม่เกิน ๑๘ ปีบริบูรณ์

เฉลยคำตอบ

      ข้อ ง เพราะ สถานะความเป็นคนไร้รากเหง้าตามข้อ 1 จะต้องเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเยาว์ จนถึงอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ตามหนังสือสั่งการกรมการปกครอง ด่วนที่สุด ที่ มท 0309.1/ว 28 ลงวันที่ 24 มกราคม 2563        เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอมีสัญชาติไทย ตามมาตรา 19/2 วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562