แบบทดสอบความรู้ ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

22 เมษายน 2564


22 เมษายน 2564

ข้อ 1   ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          การแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยุบเลิกหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ให้กระทำโดย

          ก. พระราชกฤษฎีกา                ข. กฎกระทรวงมหาดไทย

ค. ประกาศกระทรวงมหาดไทย     ง. คำสั่งกระทรวงมหาดไทย

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา 6 บัญญัติว่า การบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ให้ถือเอาหมู่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่เป็นหลัก ส่วนการจะกำหนดให้หมู่บ้านใดหมู่บ้านหนึ่งหรือตั้งแต่สองหมู่บ้านขึ้นไปเป็นหมู่บ้านตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กระทรวงมหาดไทยประกาศเป็นคราว ๆ ไป ตามความเหมาะสมแห่งสภาพท้องที่

          การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยุบเลิกหมู่บ้าน ให้กระทำโดยประกาศกระทรวงมหาดไทย

          การรวมหมู่บ้านต่างอำเภอมากำหนดเป็นหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองจะกระทำมิได้

          ดังนั้น การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยุบเลิกหมู่บ้าน อพป. ให้กระทำโดยประกาศกระทรวงมหาดไทย ตามมาตรา 6 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว   

สรุป คำตอบ ง. จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง   

 

ข้อ 2   ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการกลางของหมู่บ้าน อพป.

          ก. ในหมู่บ้านหนึ่งให้มีคณะกรรมการกลางคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานคณะกรรมการกลาง

              ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการกลาง กรรมการสภาตำบลผู้ทรงคุณวุฒิ

              ในหมู่บ้านเป็นกรรมการกลางโดยตำแหน่ง

          ข. การเลือกตั้งกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิจากราษฎรในหมู่บ้านนั้น มีจำนวนอย่างน้อย 5 คน อย่างมาก

              ไม่เกิน 9 คน เป็นกรรมการกลาง

          ค. หมู่บ้านใดมีผู้ใหญ่บ้านเป็นกำนันอยู่ด้วย ให้กำนันของหมู่บ้านนั้นเป็นประธานคณะกรรมการกลาง

              ให้สารวัตรกำนัน และหรือแพทย์ประจำตำบล ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตหมู่บ้านของกำนันเป็น

              กรรมการกลางโดยตำแหน่ง 

          ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา ๗ บัญญัติว่า ในหมู่บ้านหนึ่งให้มีคณะกรรมการกลางคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานคณะกรรมการกลาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กรรมการสภาตำบลผู้ทรงคุณวุฒิในหมู่บ้านเป็นกรรมการกลาง      โดยตำแหน่ง และให้มีการเลือกตั้งกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิจากราษฎรในหมู่บ้านนั้น มีจำนวนอย่างน้อยห้าคนอย่างมากไม่เกินเจ็ดคน เป็นกรรมการกลาง กรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิจะมีเท่าใด ให้เป็นไปตามที่นายอำเภอกำหนดตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมของหมู่บ้าน การเลือกตั้งกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นไปตามมาตรา ๑๑

          หมู่บ้านใดมีผู้ใหญ่บ้านเป็นกำนันอยู่ด้วย ให้กำนันของหมู่บ้านนั้นเป็นประธาน คณะกรรมการกลาง ให้สารวัตรกำนัน และหรือแพทย์ประจำตำบล ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตหมู่บ้าน ของกำนันเป็นกรรมการกลางโดยตำแหน่ง

          ให้คณะกรรมการกลางเลือกรองประธานคณะกรรมการกลางหนึ่งคน และเลขานุการหนึ่งคนจากกรรมการกลาง การออกเสียงลงคะแนนให้กระทำโดยเปิดเผยโดยใช้วิธียกมือ ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ใช้วิธีจับสลาก

          ให้มีที่ปรึกษาคณะกรรมการกลางและคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ประจำหมู่บ้านได้ตามจำนวนที่เห็นสมควร ซึ่งนายอำเภอแต่งตั้งจากข้าราชการหรือผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านนั้น

 

                    ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำตอบ ก. ในหมู่บ้านหนึ่งให้มีคณะกรรมการกลางคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานคณะกรรมการกลาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการกลาง กรรมการสภาตำบลผู้ทรงคุณวุฒิในหมู่บ้านเป็นกรรมการกลางโดยตำแหน่ง ในประเด็นกรณีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการกลาง ไม่ถูกต้อง เนื่องจากมาตรา 7 วรรคสามบัญญัติ ให้คณะกรรมการกลางเลือกรองประธานคณะกรรมการกลางหนึ่งคน มิใช่บัญญัติให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการกลาง    แต่อย่างใด

สรุป คำตอบ ก. จึงเป็นคำตอบที่กล่าวไม่ถูกต้อง   

 

ข้อ 3 ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางของหมู่บ้าน อพป.

          ก. ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีสัญชาติไทย อายุ 20 ปี บริบูรณ์ตามหลักฐาน

             ทางทะเบียนราษฎรในวันเลือกตั้ง

          ข. ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีภูมิลำเนาและถิ่นที่อยู่เป็นประจำ และมีชื่อในทะเบียนบ้าน

                 ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านนั้นมาแล้วติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน จนถึงวันเลือกตั้ง 

ค. กรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี

          ง. กรณีตำแหน่งกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิว่างลงก่อนครบวาระ ให้เลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน

             60 วัน ยกเว้นกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้ยุบคณะกรรมการกลาง หรือคณะกรรมการต่าง ๆ และ

             ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ถ้าตำแหน่งว่างลงก่อนกำหนดออก

             ตามวาระไม่เกิน 180 วัน จะไม่เลือกขึ้นแทนก็ได้

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522   

          มาตรา ๑๐ บัญญัติว่า ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่อยู่ในลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

          (๑) มีสัญชาติไทย

(๒) อายุยี่สิบปีบริบูรณ์ตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎรในวันเลือกตั้ง

(๓) มีภูมิลำเนาและถิ่นที่อยู่เป็นประจำ และมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎรอยู่ในหมู่บ้านนั้นมาแล้วติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือนจนถึงวันเลือกตั้ง

(๔) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองตามรัฐธรรมนูญด้วยความบริสุทธิ์ใจ

(๕) มีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่าประโยคประถมศึกษาปีที่สี่ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่าไม่ต่ำกว่าประโยคประถมศึกษาปีที่สี่ เว้นแต่ท้องที่ซึ่งไม่อาจเลือกผู้มีความรู้ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจพิจารณาตามที่เห็นสมควรได้

(๖) ไม่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช

(๗) ไม่เป็นผู้วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือติดยาเสพติดให้โทษหรือไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนดไว้สำหรับคุณสมบัติของผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่โดยอนุโลม

          (๘) ไม่เป็นข้าราชการประจำ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น

(๙) ไม่เป็นผู้มีชื่อเสียงในทางทุจริต หรือเสื่อมเสียในทางศีลธรรม

          (๑๐) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกฐานทุจริตต่อหน้าที่รวมทั้งในองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล หรือกรรมการกลางหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ยังไม่พ้นกำหนดสามปีนับแต่วัน     ไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก

          (๑๑) ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ และยังไม่พ้นกำหนดเวลาสามปีนับแต่วันพ้นโทษ

          มาตรา ๑๒ บัญญัติว่า กรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี...

          ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำตอบ ข.  ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีภูมิลำเนาและถิ่นที่อยู่เป็นประจำ และมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านนั้นมาแล้วติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน จนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านนั้นมาแล้วติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน จนถึงวันเลือกตั้ง ตามมาตรา 10 (3) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว   

          สรุป คำตอบ ข. จึงเป็นคำตอบที่กล่าวผิด

 

ข้อ 4   ในหมู่บ้าน อพป. ให้มีคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือปฏิบัติภารกิจของคณะกรรมการกลาง

          ในแต่ละสาขางานตามที่ได้รับมอบ คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ จะมีกี่คณะแล้วแต่คณะกรรมการกลาง

          จะพิจารณาเห็นสมควร โดยปกติควรมีคณะกรรมการใดบ้าง ข้อใดถูกต้องที่สุด

          ก. คณะกรรมการพัฒนา คณะกรรมการปกครอง คณะกรรมการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย

                     คณะกรรมการการคลัง คณะกรรมการสาธารณสุข คณะกรรมการศึกษาและวัฒนธรรม คณะกรรมการ

              สวัสดิการและสังคม

          ข. คณะกรรมการพัฒนา คณะกรรมการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย คณะกรรมการการคลัง

              คณะกรรมการสาธารณสุข คณะกรรมการศึกษาและวัฒนธรรม คณะกรรมการสวัสดิการและสังคม

          ค. คณะกรรมการปกครอง คณะกรรมการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย คณะกรรมการการคลัง

             คณะกรรมการสาธารณสุข คณะกรรมการศึกษาและวัฒนธรรม คณะกรรมการสวัสดิการและสังคม

          ง. คณะกรรมการแผนงานและโครงการ คณะกรรมการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย

                    คณะกรรมการการคลัง คณะกรรมการสาธารณสุข คณะกรรมการศึกษาและวัฒนธรรม คณะกรรมการ

             สวัสดิการและสังคม คณะกรรมการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา ๑๖ บัญญัติว่า ในหมู่บ้าน ให้มีคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือปฏิบัติภารกิจของคณะกรรมการกลางในแต่ละสาขางานตามที่ได้รับมอบ คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ จะมีกี่คณะแล้วแต่คณะกรรมการกลางจะพิจารณาเห็นสมควร โดยปกติควรมีคณะกรรมการพัฒนา คณะกรรมการปกครอง คณะกรรมการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย คณะกรรมการการคลัง คณะกรรมการสาธารณสุข คณะกรรมการศึกษาและวัฒนธรรม คณะกรรมการสวัสดิการและสังคม หรือคณะกรรมการอื่น ๆ ที่คณะกรรมการกลางพิจารณาเห็นว่าจำเป็น 

          ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำตอบ ก. คณะกรรมการพัฒนา คณะกรรมการปกครอง คณะกรรมการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย คณะกรรมการการคลัง คณะกรรมการสาธารณสุข คณะกรรมการศึกษาและวัฒนธรรม คณะกรรมการสวัสดิการและสังคม เป็นคณะกรรมการที่หมู่บ้าน อพป. โดยปกติควรมี ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว 

สรุป คำตอบ ก. จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด  

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อ 5   ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการประชุมของคณะกรรมการกลางหมู่บ้าน อพป.

          ก. ให้คณะกรรมการกลางของหมู่บ้าน อพป. ประชุมกันไม่น้อยกว่าเดือนละครั้ง

          ข. ในกรณีที่มีการรวมหมู่บ้านมากกว่าหนึ่งหมู่บ้านเป็นหมู่บ้าน อพป. ในการประชุมครั้งแรก ให้นายอำเภอหรือ

                หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ หรือปลัดอำเภอซึ่งนายอำเภอมอบหมายเป็นผู้นัดประชุม และทำหน้าที่

                ประธานชั่วคราวเพื่อเลือกประธานคณะกรรมการกลาง

          ค. การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมคณะกรรมการกลางของหมู่บ้าน อพป. ให้ถือเสียงข้างมาก ประธาน

              คณะกรรมการกลางหรือกรรมการกลางในขณะทำหน้าที่เป็นประธานอยู่ในที่ประชุมนั้น มีสิทธิออกเสียง

              ลงคะแนนในฐานะกรรมการกลางด้วย และในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานคณะกรรมการกลาง

                มีสิทธิออกเสียงชี้ขาดได้อีกหนึ่งเสียง

          ง. เมื่อมีปัญหาโต้แย้งเกี่ยวกับการประชุม ให้ประธานคณะกรรมการกลางนำข้อโต้เถียงที่เกิดขึ้นเสนอ

              นายอำเภอ และให้นายอำเภอรายงานพฤติการณ์ดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด คำวินิจฉัยของ

              ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ใช้บังคับได้เฉพาะการประชุมคราวนั้น

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา ๒๐ บัญญัติว่า ให้คณะกรรมการกลางประชุมกันไม่น้อยกว่าเดือนละครั้ง การกำหนดวันประชุมให้ประธานคณะกรรมการกลางเป็นผู้กำหนดและเรียกประชุม โดยคำนึงถึงความสะดวกและการประกอบอาชีพของกรรมการกลางเป็นหลัก

          กรณีที่มีการรวมหมู่บ้านตามมาตรา ๘ ในการประชุมครั้งแรก ให้นายอำเภอหรือหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ หรือปลัดอำเภอซึ่งนายอำเภอมอบหมายเป็นผู้นัดประชุม และทำหน้าที่ประธานชั่วคราวเพื่อเลือกประธานคณะกรรมการกลาง...

          มาตรา ๒๒ บัญญัติว่า การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก

          กรรมการกลางคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน

          ประธานคณะกรรมการกลางหรือกรรมการกลางในขณะทำหน้าที่เป็นประธานอยู่ในที่ประชุมนั้น มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในฐานะกรรมการกลางด้วย และในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานคณะกรรมการกลางมีสิทธิออกเสียงชี้ขาดได้อีกหนึ่งเสียง

          มาตรา ๒๓ บัญญัติว่า เมื่อมีปัญหาโต้เถียงเกี่ยวกับการประชุมซึ่งมิได้กำหนดไว้ในหมวดนี้ ให้ประธานคณะกรรมการกลางนำข้อโต้เถียงที่เกิดขึ้นเสนอต่อนายอำเภอ คำวินิจฉัยของนายอำเภอให้ใช้บังคับได้เฉพาะการประชุมคราวนั้น และให้นายอำเภอรายงานพฤติการณ์ดังกล่าวนี้ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบ            

          ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำตอบ ง. เมื่อมีปัญหาโต้แย้งเกี่ยวกับการประชุม ให้ประธานคณะกรรมการกลางนำข้อโต้เถียงที่เกิดขึ้นเสนอนายอำเภอ และให้นายอำเภอรายงานพฤติการณ์ดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด คำวินิจฉัยของผู้ว่าราชการจังหวัดให้ใช้บังคับได้เฉพาะการประชุมคราวนั้น ประเด็นคำวินิจฉัยของผู้ว่าราชการจังหวัดให้ใช้บังคับได้เฉพาะการประชุมคราวนั้น ไม่ถูกต้องเนื่องจากการวินิจฉัยข้อโต้แย้งเป็นอำนาจของนายอำเภอ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

สรุป คำตอบ ง. จึงเป็นคำตอบที่กล่าวผิด

   

         

 

 

 

ข้อ 6   ข้อใดไม่ใช่เงินจัดสรรรายได้ของกระทรวงมหาดไทยและองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำหรับการบริหาร

         หมู่บ้าน อพป.

          ก. เงินอุดหนุนหรือเงินส่งเสริมจากรัฐบาล

          ข. เงินภาษีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่าง ๆ ตามที่จะมีกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี

              และคำสั่งจัดสรรให้  

ค. เงินอุดหนุนจากราชการบริหารส่วนท้องถิ่น

          ง. เงินรายได้ตามที่นายอำเภอจัดสรรให้

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา 25 บัญญัติว่า ให้กระทรวงมหาดไทยและองค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดสรรรายได้สำหรับการบริหารหมู่บ้านตามพระราชบัญญัตินี้ ดังต่อไปนี้

          (๑) เงินอุดหนุนหรือเงินส่งเสริมจากรัฐบาล

          (๒) ภาษีบำรุงท้องที่ที่เก็บได้จากที่ดินในเขตหมู่บ้าน

          (๓) เงินภาษีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่าง ๆ ตามที่จะมีกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และคำสั่ง จัดสรรให้

          (๔) เงินอุดหนุนจากราชการบริหารส่วนท้องถิ่น

          (๕) เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้

          (๖) เงินรายได้ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดสรรให้

          (๗) รายได้อื่น ๆ

          การอุทิศเงินและทรัพย์สินตาม (๕) ต้องมอบแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดแจ้ง การจัดสรรเงินภาษีบำรุงท้องที่ที่เก็บได้จากที่ดินในเขตหมู่บ้านตาม (๒) ระหว่างหมู่บ้าน ตำบล และจังหวัด           ให้เป็นไปตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดตาความจำเป็นของแต่ละหมู่บ้าน

          ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำตอบ ง. เงินรายได้ตามที่นายอำเภอจัดสรรให้ ไม่ใช่เงินที่กระทรวงมหาดไทยและองค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดสรรรายได้สำหรับการบริหารหมู่บ้าน ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัตินี้   

สรุป คำตอบ ง. ไม่ถูกต้อง    

 

ข้อ 7   พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522 มาตรา 26

          กำหนดให้การใช้จ่ายเงินของหมู่บ้าน อพป. ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการ

          งบประมาณและการคลังของหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ในระเบียบดังกล่าวให้กำหนดเรื่องใดไว้ด้วย

          ก. การจัดตั้งศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง

          ข. การจัดทำแผนและโครงการ

ค. เงินจัดสรรรายได้ของหมู่บ้าน อพป.

          ง. การเบิกจ่าย การเก็บรักษา และการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา 26 บัญญัติว่า การใช้จ่ายเงินของหมู่บ้าน ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณและการคลังของหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ในระเบียบดังกล่าว ให้กำหนดเรื่องการจัดทำแผนและโครงการไว้ด้วย

         

 

 

          ดังนั้น ในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณและการคลังของหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ให้กำหนดเรื่องการจัดทำแผนและโครงการไว้ด้วย เมื่อพิจารณาคำตอบ ข. การจัดทำแผนและโครงการ เป็นไปตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัตินี้   

สรุป คำตอบ ข. จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง  

 

ข้อ 8   เมื่อคณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายใดของหมู่บ้าน อพป. ดำเนินการหรือมีพฤติการณ์ที่จะเป็น

          การเสียหายแก่ท้องที่หรือราชการ เมื่อได้ทำการสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความจริง บุคคลใดมีอำนาจ

          สั่งยุบคณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายนั้นของหมู่บ้าน อพป. นั้นได้

          ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

          ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด

          ง. นายอำเภอ โดยความเห็นชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา 29 วรรคแรก บัญญัติว่า คณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายใดดำเนินการหรือมีพฤติการณ์ที่จะเป็นการเสียหายแก่ท้องที่หรือราชการ เมื่อได้ทำการสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความจริง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งยุบคณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายนั้นได้

          ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการสั่งยุบคณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายนั้นของหมู่บ้าน อพป. นั้นได้ เมื่อคณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายใดของหมู่บ้าน อพป. ดำเนินการหรือมีพฤติการณ์ที่จะเป็นการเสียหายแก่ท้องที่หรือราชการ เมื่อได้ทำการสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความจริง ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว 

สรุป คำตอบ ค. เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

 

ข้อ 9   เมื่อสั่งยุบคณะกรรมการกลางของหมู่บ้าน อพป. แล้ว ให้นายอำเภอดำเนินการเลือกตั้งกรรมการกลาง

          ผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นแทนภายในกี่วัน

          ก. ภายใน 90 วันนับแต่วันที่สั่งยุบ

          ข. ภายใน 60 วันนับแต่วันที่สั่งยุบ

ค. ภายใน 45 วันนับแต่วันที่สั่งยุบ

          ง. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่สั่งยุบ

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา 29 วรรคสอง บัญญัติว่า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งยุบคณะกรรมการกลางแล้ว ให้นายอำเภอดำเนินการเลือกตั้งกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นแทนภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่สั่งยุบ ระหว่างที่คณะกรรมการกลางถูกยุบ ให้นายอำเภอรับผิดชอบการปฏิบัติงานแทนคณะกรรมการกลาง

          ดังนั้น เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดการสั่งยุบคณะกรรมการกลางหรือคณะกรรมการฝ่ายนั้นของหมู่บ้าน อพป. แล้ว ให้นายอำเภอดำเนินการเลือกตั้งกรรมการกลางผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นแทนภายใน 45 วันนับแต่วันที่สั่งยุบตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว 

สรุป คำตอบ ค. เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

 

 

 

ข้อ 10 โครงการใช้จ่ายเงินของหมู่บ้าน อพป. เมื่อนายอำเภออนุมัติแล้ว ให้นำเข้าข้อบัญญัติจังหวัดตามระเบียบ

          และวิธีการงบประมาณของหน่วยงานใด

          ก. องค์การบริหารส่วนตำบล

          ข. เทศบาล

ค. องค์การบริหารส่วนจังหวัด  

          ง. จังหวัด

เฉลยคำตอบ

          พระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ. 2522

          มาตรา 27 บัญญัติว่า โครงการใช้จ่ายเงินของหมู่บ้าน เมื่อนายอำเภออนุมัติแล้ว ให้นำเข้าข้อบัญญัติจังหวัดตามระเบียบและวิธีงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด  

          สภาจังหวัดจะเปลี่ยนแปลงโครงการใช้จ่ายเงินของหมู่บ้านมิได้

          ดังนั้น โครงการใช้จ่ายเงินของหมู่บ้าน เมื่อนายอำเภออนุมัติแล้ว ให้นำเข้าข้อบัญญัติจังหวัดตามระเบียบและวิธีงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว 

สรุป คำตอบ ค. จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง